
รอยเตอร์สเผยเอกสารภายในของ Meta พบรายได้กว่า 10% ในปี 2024 คิดเป็นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านเหรียญมาจากโฆษณาหลอกลวงและสินค้าต้องห้าม แสดงถึงความล้มเหลวในการปกป้องผู้ใช้

เอกสารภายในของ Meta ที่ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2021 ถึงปัจจุบัน เผยการประเมินเชิงลึกเกี่ยวกับขอบเขตของการละเมิดบนแพลตฟอร์มและผลกระทบทางการเงิน พบว่าบริษัทล้มเหลวในการควบคุมโฆษณาหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซและการลงทุนฉ้อโกง คาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมาย ไปจนถึงการขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ถูกแบน แต่โฆษณาประเภทนี้กลับเป็นแหล่งรายได้สำคัญของ Meta
รายงานจาก Reuters ระบุว่าแพลตฟอร์มในเครือของบริษัทแสดงโฆษณาหลอกลวงให้ผู้ใช้เห็นมากถึง 15,000 ล้านรายการต่อวัน แทนที่จะระงับหรือแบนบัญชีที่เผยแพร่โฆษณาเหล่านี้ Meta กลับเลือกที่จะเรียกเก็บค่าโฆษณาในอัตราที่สูงขึ้น พร้อมจัดทำรายงานภายในชื่อว่า “Scammiest Scammers” เพื่อจัดลำดับผู้ลงโฆษณาที่มีความเสี่ยงสูงสุด
ข้อมูลตัวเลขจากรายงานที่น่าสนใจมีดังนี้
ปกติแล้วระบบของ Meta จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบผู้ลงโฆษณาที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่จะสั่งแบนได้ก็ต่อเมื่อระบบอัตโนมัติระบุความมั่นใจว่ามีการฉ้อโกง ไม่ต่ำกว่า 95% หากยังไม่ถึงเกณฑ์บริษัทจะเรียกเก็บค่าโฆษณาในอัตราที่สูงขึ้นแทนเพื่อเป็น “ค่าปรับ” และลดโอกาสที่ผู้ลงโฆษณาที่มีความเสี่ยงจะเผยแพร่เนื้อหาหลอกลวงต่อไป

ผู้ใช้ที่คลิกโฆษณาหลอกลวงมีแนวโน้มที่จะเห็นโฆษณาเหล่านั้นมากขึ้น เนื่องจากระบบโฆษณาของ Meta จะปรับแแต่งเพื่อแสดงโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น แต่ตามข้อมูลในเอกสารที่ได้มา ระบุชัดเจนว่ารายได้ที่ Meta มีรายรับจากโฆษณาหลอกลวงนั้นสูงกว่าค่าปรับที่โดนดำเนินการทางกฎหมายอย่างมหาศาล ส่งผลให้เกิดแรงจูงใจทางธุรกิจที่จะไม่ปราบปรามอย่างเข้มงวดจริงจัง
มีเอกสารฉบับหนึ่งระบุว่าฝ่ายบริหารตัดสินใจที่จะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบผู้ลงโฆษณา ก็ต่อเมื่อเพื่อตอบสนองต่อการดำเนินการด้านกฎระเบียบที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น แทนที่จะดำเนินการโดยสมัครใจ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ทีมตรวจสอบผู้ลงโฆษณาไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการใดๆ ที่อาจทำให้บริษัทสูญเสียรายได้มากกว่า 0.15% ของรายได้รวม (ประมาณ 135 ล้านเหรียญ)
ในเดือนตุลาคม 2567 ผู้บริหารเสนอแผนต่อ Mark Zuckerberg ที่จะมุ่งเน้นความพยายามปราบปรามไปยังประเทศที่บริษัทกังวล แต่มีการดำเนินการด้านกฎระเบียบในระยะสั้น แทนที่จะเป็นการปราบปรามอย่างรวดเร็วและครอบคลุม

แอนดี้ สโตน โฆษกของ Meta ปฏิเสธรายงานของ Reuters ที่อ้างว่าเอกสารภายในชี้ให้เห็นว่าบริษัททำรายได้กว่า 10% จากโฆษณาหลอกลวง โดยระบุว่าการประเมินดังกล่าว “หยาบและครอบคลุมเกินไป” เพราะรวมโฆษณาที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้ด้วย พร้อมยืนยันว่าตัวเลขจริงต่ำกว่านั้นมาก
Meta พร้อมยืนยันการต่อสู้กับการฉ้อโกงและการหลอกลวงอย่างจริงจัง โดยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา บริษัทลดโฆษณาหลอกลวงได้ 58% และลบโฆษณาประเภทนี้ไปแล้วกว่า 134 ล้านชิ้น ส่วนข้อมูลการประเมินภายในเหล่านี้ถูกทำขึ้นเพื่อยืนยันการลงทุนด้านความปลอดภัยที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้ว โดยทุ่มเงินลงทุนกับ AI และวางแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานสูงถึง 7.2 หมื่นล้านเหรียญในปีนี้
ที่มา reuters





