เบื้องหลังผลิต Apple Watch Series 11 – Ultra 3 ไทเทเนียมด้วย 3D Print ใช้วัสดุได้เกือบครึ่ง แต่ยังแข็งแรง

THE SUMMARY:

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในงาน Apple Event ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายชิ้นทั้ง iPhone 17 Series, iPhone Air, AirPods Pro 3 จนไปถึง Apple Watch ซึ่งความพิเศษที่ถูกพูดถึงระหว่างการเปิดตัว Apple Watch Series 11 – Ultra 3 คือมีการเปลี่ยนกรรมวิธีผลิตตัวเรือนไทเทเนียมใหม่ด้วยวิธี 3D Printing

Apple Event นาที 27:52 พูดถึงกรรมวิธีผลิต Apple Watch ด้วยวิธี 3D Printing

ความพิเศษของกระบวนการใหม่นี้ คือ การเปลี่ยนจากการผลิตแบบเดิมที่ต้อง “กัด” หรือ “เจาะ” โลหะก้อนใหญ่ทิ้งไป (Subtractive) มาเป็นการ “พิมพ์” (Additive) ชิ้นงานขึ้นมาทีละชั้น ทำให้ได้รูปทรงที่แม่นยำเกือบสมบูรณ์ทันที โดย Apple ได้นำมาใช้ผลิตตัวเรือนของ Apple Watch Ultra 3 และ Apple Watch Series 11 ตัวเรือนไทเทียม

ขั้นผลิตตัวเรือน Apple Watch ไทเทเนียมด้วยวิธี 3D Print ทั้งหมด 5 ขั้นตอน

  1. การพิมพ์ : เครื่องพิมพ์ที่มีเลเซอร์ 6 ตัว จะทำงานพร้อมกัน เพื่อสร้างตัวเรือนทีละชั้นจากผงไทเทเนียมรีไซเคิล ทำซ้ำกว่า 900 ครั้ง (900 ชั้น) จนได้ตัวเรือนหนึ่งชิ้น 
  2. การกำจัดผงส่วนเกิน (หยาบ) : เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงานเสร็จ ผงไทเทเนียมส่วนเกินจะถูกดูดออกจากแผ่นฐาน (Build Plate) 
  3. การกำจัดผงละเอียด : ใช้เครื่องสั่นอัลตราโซนิก (Ultrasonic Shaker) เพื่อกำจัดผงไทเทเนียมที่อาจยังหลงเหลือตามซอกมุมต่าง ๆ ของตัวเรือน 
  4. การตัดแยกชิ้นงาน : ชิ้นส่วนตัวเรือนทั้งหมดจะถูกตัดแยกออกจากแผ่นฐานโดยใช้ลวดเส้นที่บางมาก 
  5. การตรวจสอบคุณภาพ : ระบบตรวจสอบอัตโนมัติด้วยแสง (Automated Optical Inspection System) จะวิเคราะห์และตรวจสอบชิ้นงาน เพื่อยืนยันความถูกต้องแม่นยำของขนาด รูปร่าง และมิติต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเรือนพร้อมสำหรับขั้นตอนการเก็บงานขั้นสุดท้าย

สิ่งที่น่าสนใจของวิธีการผลิตตัวเรือน Apple Watch ตัวเรือนไทเทเนียมก็คือใช้วัสดุ “ผงไทเทเนียมเกรดอากาศยานรีไซเคิล 100%” และการเปลี่ยนมาใช้วิธีพิมพ์ 3 มิติ ทำให้ Apple ใช้วัตถุไทเทเนียมดิบน้อยลงถึงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และคาดว่าจะลดการใช้ไทเทเนียมดิบได้มากกว่า 400 เมตริกตัน ภายในปีนี้เพียงปีเดียว เมื่อรวมกับการที่โรงงานผลิตใช้พลังงานหมุนเวียน 100% นี่จึงเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย “Apple 2030” ที่มุ่งสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน

ทาง Apple ได้บอกว่า ใช้เวลาหลายปีในการวิจัยและพัฒนา “สูตร” ที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ส่วนผสมของโลหะอัลลอยไปจนถึงการปรับจูนเครื่องพิมพ์ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขึ้นรูปตัวเรือนไทเทเนียมได้ โดยที่ยังคงความแข็งแกร่งทนทาน และดีไซน์ที่สวยงามตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ Apple

ซึ่งกรรมวิธีนี้ไม่ได้ใช้แค่ผลิต Apple Watch Series 11 วัสดุไทเทียม และ Apple Watch Ultra 3 เท่านั้น แต่ยังไปใช้กับการผลิตพอร์ต USB-C ใน iPhone Air รุ่นใหม่ด้วย ทำให้พอร์ตมีความบางเฉียบ แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...