จีนปล่อย 12 ดาวเทียม ซึ่งเป็นชุดแรกจากแผนการสร้าง ‘เครือข่ายซูเปอร์คอมพิวเตอร์บนอวกาศ’ จากดาวเทียมทั้งหมดกว่า 2,800 ดวง ภายใต้โครงการ ‘Star Compute’ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ADA Space ร่วมกับ Zhijiang Lab และ Neijang High-Tech Zone โครงการนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ดาวเทียมสามารถประมวลผลข้อมูลที่บันทึกมาได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องส่งข้อมูลกลับมาประมวลผลบนโลกนั่นเองครับ สำหรับดาวเทียมชุดแรกที่ส่งขึ้นไปอยู่ในโครงการที่เรียกว่า ‘Three-Body Computing Constellation’ ซึ่งแต่ละดวงได้รับการติดตั้งโมเดล AI ขนาด
โครงการกลุ่มดาวเทียมอวกาศ Polarimeter to Unify the Corona and Heliosphere (PUNCH) ได้ส่งภาพชุดแรกกลับมายังโลกแล้วครับ หลังจากปล่อยขึ้นสู่วงโคจรขั้วโลกไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายของภารกิจคือตรวจสอบชั้นโคโรนา ซึ่งเป็นบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์เปลี่ยนผ่านเป็นลมสุริยะได้อย่างไร และนี่เองเป็นสาเหตุที่เราสามารถเห็นแสงเหนือหรือ Aurora บนโลก สำหรับ PUNCH ไม่ได้เป็นดาวเทียมเพียงดวงเดียวนะครับ แต่ประกอบไปด้วยดาวเทียมขนาดเล็ก 4 ดวง เพื่อสร้างการตรวจจับทางสภาพอากาศในอวกาศครอบคลุมพื้นที่ 8,000 ไมล์ (ประมาณ 12,875
ตอนนี้สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงมักมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมเพื่อขอความช่วยเหลือตอนที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้ แล้วมือถือรุ่นเก่าๆอยากใช้บ้าง ตอนนี้ก็มี HMD OffGrid ออกมาช่วยแล้ว การโทรและส่งข้อความผ่านดาวเทียมกลายมาเป็นฟีเจอร์สำคัญในสมาร์ทโฟนหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPhone และ Pixel 9 ซึ่งจะเน้นรุ่นเรือธงที่มีราคาค่อนข้างสูง สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในท้องตลาดไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ นั่นทำให้ทาง HMD Global เห็นโอกาสจึงได้พัฒนา HMD OffGrid อุปกรณ์พกพ่ขนาดกะทัดรัดและทนทาน เพื่อให้ผู้ใช้ Android และ iOS เชื่อมต่อกับดาวเทียมในพื้นที่ห่างไกลที่เครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น IP68 พร้อมความทนทานระดับทหาร
ปัจจุบันไฟป่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าแต่ก่อนเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักดับเพลิงยังต้องอาศัยภาพถ่ายดาวเทียมที่มีความละเอียดต่ำหรืออัปเดตเพียงไม่กี่ครั้งต่อวัน ทำให้การตรวจจับไฟป่าทำได้ยาก ซึ่งกว่าจะตรวจพบไฟก็ลุกลามเป็นวงกว้างแล้ว ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยของ Google จึงได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำด้านการป้องกันไฟป่าเพื่อสร้าง FireSat ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเทียมที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อตรวจจับและติดตามไฟป่าขนาดเล็กเท่ากับห้องเรียน (ประมาณ 5×5 เมตร) โดย FireSat จะช่วยให้หน่วยงานต่างๆ เข้าถึงภาพถ่ายดาวเทียมที่มีความละเอียดสูงจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีการอัปเดตทุกๆ 20 นาที ทำให้สามารถรับมือกับไฟป่าก่อนจะลุกลาม Google.org มอบทุนสนับสนุนจำนวน 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ Earth Fire Alliance
หลังจากที่ Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Emergency SOS ไปใน iPhone 14 หลายประเทศในเอเชียต่างก็ลุ้นว่าจะได้ใช้งานเมื่อไหร่ มาวันนี้ Apple ประกาศเปิดใช้งานในญี่ปุ่นที่แรกในเอเชีย เปิดให้ผู้ใช้โทรออกฉุกเฉินได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi ฟีเจอร์ Emergency SOS สามารถใช้งานได้บน iPhone 14, iPhone 15 หรือรุ่นใหม่กว่า เปิดให้เราโทรออก รวมถึงแชร์พิกัดให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวผ่านดาวเทียม ในกรณที่เกิดเหตุฉุกเฉิน บริการนี้เปิดให้ใช้งานฟรีเป็นเวลา 2 ปีนับตั้งแต่เราซื้อ iPhone เครื่องใหม่ที่รองรับ
หลังจากที่ Apple เปิดตัวการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมสำหรับส่งข้อความฉุกเฉินด้วย iPhone 14 มีข่าวลือว่า Samsung กำลังพัฒนาฟีเจอร์ที่คล้ายกันสำหรับ Galaxy S23 แต่ก็ไม่มีการเปิดตัวจนมาถึง Galaxy S24 เช่นกัน ล่าสุดทางซัมซุงพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวฟีเจอร์นี้ใน Galaxy S25 ดูเหมือนว่า Samsung เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์การเชื่อมต่อดาวเทียมสำหรับการโทรและส่งข้อความในกรณีฉุกเฉิน โดยทาง Android Authority ได้ค้นพบฟีเจอร์นี้ในโค้ดของแอป Emergency SOS, แอปข้อความ และแอปโทรศัพท์ ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกพบในแอป Emergency
ธีออส–2 นับเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการสำรวจทรัพยากรโลกให้กับประเทศไทย ธีออส-2 (THEOS-2) ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติโลกที่ผลิตขึ้นโดยแอร์บัสถูกปล่อยขึ้นไปกับจรวดนำส่งเวก้า (Vega) ที่เมืองคูรู (Kourou) ในจังหวัดเฟรนช์เกียนา (French Guiana) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า (GISTDA) ได้เลือกแอร์บัสเป็นพันธมิตรในการพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์แห่งชาติรุ่นใหม่เมื่อปี 2561 นายฌอง-มาร์ค นาซร์ (Jean-Marc Nasr) หัวหน้าฝ่ายระบบอวกาศของแอร์บัสกล่าวว่า “ความสำเร็จในการปล่อย THEOS-2 ดาวเทียมถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงถึง 50 เซนติเมตร ตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มประเทศเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงยุทธภูมิยุทธศาสตร์แบบความละเอียดสูงได้ เราจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนความมุ่งมั่นของ GISTDA ในการพัฒนาระบบข้อมูลรอบด้านทางภูมิศาสตร์ที่จะมอบผลประโยชน์ให้แก่อาณาจักรไทยได้” THEOS-2 เป็นดาวเทียมที่ดำเนินตามแบบดาวเทียม THEOS-1 ที่แอร์บัสสร้างขึ้นและปล่อยขึ้นสู่วงโคจรในปี 2551 ที่ยังสามารถส่งข้อมูลภาพถ่ายได้อย่างคมชัดแม้อายุการใช้งานจะผ่านมากว่า 10 ปี ภายใต้กรอบการทำงานของโครงการ THEOS-2 นี้ ระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์ของ GISTDA จะได้ประโยชน์จากภาพถ่ายดาวเทียมที่กลุ่มดาวเทียมสำรวจโลกที่ถ่ายภาพแบบออฟติคคอล (Optical) และเรดาร์ (Radar)
