ก่อนหน้านี้ Google มีข่าวลือว่ากำลังพัฒนา Jarvis AI เพื่อช่วยทำงานบน Chrome ล่าสุดทาง Google ได้เผลอทำข้อมูลของ Chrome extension หลุดออกมา หลังจากนั้นก็ลบออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีผู้ใช้บางส่วนติดตั้งได้ทัน เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม มีข่าวว่า Google กำลังพัฒนา Agent ที่ “มีประโยชน์” เพื่อช่วยให้การท่องเว็บสะดวกรวดเร็วขึ้น นั้นก็คือ Project Jarvis (ซึ่งชื่อนี้ยังเป้นชื่อแบบไม่เป็นทางการ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้) หน้าที่หลักของเครื่องมือนี้ คือ
Google ใกล้เปิดตัว AI Agent ที่สามารถควบคุมเว็บเบราว์เซอร์เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการงานประจำวันโดยอัตโนมัติ The Information รายงานว่า Google กำลังพัฒนา “ตัวแทน (Agent) ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์” ภายใต้ชื่อรหัส Project Jarvis และอาจพร้อมให้ดูตัวอย่างพรีวิวได้ในเร็วที่สุดในเดือนธันวาคม แหล่งข่าวระบุว่า Jarvis “สามารถตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้ด้วยการจับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์บ่อยๆ แล้วทำการตีความภาพเหล่านั้น ก่อนที่จะดำเนินการ เช่น คลิกปุ่มหรือพิมพ์ลงในช่องข้อความ” มีรายงานว่า Jarvis ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานกับเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น โดยเฉพาะ Chrome เพื่อช่วยเหลือในการทำงานทั่วไป
ทีมนักวิจัยจาก Reason Labs ได้ค้นพบมัลแวร์โทรจันแฝงอยู่ในส่วนเสริมเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและดำเนินการคำสั่งต่างๆจากระยะไกล ซึ่งตอนนี้คาดว่ามีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 300,000 ราย แฮกเกอร์ได้สร้างเว็บปลอมเพื่อหลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมยอดนิยมอย่าง VLC หรือ KeePass เมื่อคนหลงเชื่อก็จะเป็นการติดตั้งมัลแวร์เข้าไปแทน หลังจากนั้นโปรแกรมจะลงทะเบียน ทำงานตามกำหนดไว้ เช่น ดาวน์โหลดสคริปต์ PowerShell จากนั้นสคริปต์นี้จะดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลและดำเนินการในหน่วยความจำ สคริปต์นี้จะเพิ่ม registry keys เพื่อบังคับให้ติดตั้งส่วนขยายจาก Chrome Web Store และ
Google ขยายการใช้งานฟีเจอร์ Circle to Search ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ในสมาร์ตโฟน Galaxy S24 ของ Samsung ให้สามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ผ่าน ChromeOS และเบราว์เซอร์ Chrome ในช่วงแรกนั้นจะเปิดทดสอบใช้งานผ่านเวอร์ชันเบต้าก่อน โดย ChromeOS 127 รุ่นเบตา และ Chrome 128 รุ่นเบตาสำหรับ Windows หรือ macOS และฟีเจอร์นี้จะไม่ได้ใช้ชื่อ Circle to Search
พบปัญหาใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ทำให้ผู้ใช้หลายล้านคนไม่สามารถเข้าถึงรหัสผ่านที่บันทึกไว้ได้ใน Password manager เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Google Chrome ประสบปัญหาข้อผิดพลาดซึ่งทำให้รหัสผ่านมากกว่า 15 ล้านรหัสหายไป ทำให้ Google ต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะ เนื่องมาจากข้อบกพร่องในฟีเจอร์ตัวจัดการรหัสผ่านของ Chrome ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถใช้รหัสผ่านที่บันทึกไว้ได้ระหว่างวันที่ 24 ถึง 25 กรกฎาคม และไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้ด้วย Google ระบุว่าปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะใน Chrome เวอร์ชัน M127 บน Windows เท่านั้น
แอป Chrome บน Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “Listen to this page” ช่วยอ่านข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บให้เราฟังได้ พร้อมเครื่องมือควบคุมให้เราหยุดเล่นชั่วคารว เพิ่มความเร็วในการอ่านออกเสียง รวมถึงข้ามหรือย้อนหลังไป 10 วินาที ใครที่ชอบอ่านข้อมูลในหน้าเว็บแต่มีเวลาไม่มาก สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยอ่านให้เราฟังได้ จะได้ทำงานอื่นๆคู่ไปด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้มาพร้อมการตั้งค่าให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคนได้ เช่น การเลือกเสียงที่ชอบ รองรับทั้งภาษา อังกฤษ,ฝรั่งเศส , เยอรมัน, อารบิก, Hindi และสเปน การใช้งานง่ายมากเพียงแค่เปิดหน้าเว็บที่ต้องการ จากนั้นกดที่ปุ่มสามจุด
ใครที่ชอบเปิดแอป Google Chrome หลายหน้าต่าง ตอนนี้เราสามารถย่อแท็บเป็นหน้าต่างแบบ picture-in-picture ช่วยให้ทำงานแบบ multi-task สะดวกขึ้น ในแอป Chrome เวอร์ชันล่าสุด มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Minimized Custom Tabs ช่วยให้การการสลับใช้งานแอปและเว็บได้ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น เมื่อเรากดปุ่ม Chrome Custom Tabs toolbar ก็จะสามารถย่อแท็บให้มีขนาดเล็กลงเป็นแบบ picture-in-picture ย้ายไปอยู่ส่วนไหนของหน้าจอก็ได้ เพื่อให้เราใช้งานคู่กับแอปอื่นๆได้ง่ายขึ้น เมื่อเรากดที่ floating window ก็จะขยาย Chrome
Google ขยายการให้บริการฟีเจอร์หลักของ Gemini ไปยังประเทศและภาษาใหม่ๆเพิ่มขึ้น ให้ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้ประโยชน์จาก Gemini เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เข้าถึงส่วนขยายของ Gemini ได้ในหลายประเทศมากขึ้น Google ได้ขยายการให้บริการส่วนขยายของ Gemini ให้ครอบคลุมทุกภาษาและทุกประเทศที่รองรับในปัจจุบัน โดยส่วนขยายเหล่านี้สามารถช่วยประหยัดเวลาได้ด้วยการดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแอปและบริการของ Google ยกตัวอย่างเช่น หากเราและเพื่อนๆ กำลังวางแผนการเดินทาง สามารถขอให้ Gemini ช่วยหาวันที่เหมาะสำหรับทุกคนจาก Gmail ค้นหาข้อมูลเที่ยวบินและโรงแรมตามวันและสถานที่ที่จะไป ค้นหาวิดีโอ YouTube เกี่ยวกับสิ่งที่ควรจัดเตรียมใส่กระเป๋าและสรุปรายการสิ่งของที่กล่าวถึงในวิดีโอนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ภายในบทสนทนาเดียว โดยที่เราสามารถควบคุมการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของเราได้เสมอเมื่อตัดสินใจว่าต้องการใช้ส่วนขยายเหล่านี้อย่างไร นอกจากนี้เรายังสามารถปิดส่วนขยายเหล่านี้ได้ทุกเมื่อหากไม่ต้องการใช้งาน
Google Chrome เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น ด้วยการเปิดฟีเจอร์ Safety Check ให้ทำงานอยู่เบื้องหลังอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนทันที หากรหัสผ่านที่เซฟไว้มีการหลุดรอด เพื่อให้เรารีบเปลี่ยนทันที Safety Check นั้นยังช่วยตรวจสอบส่วนเสริม รวมถึงการขออนุญาตของเว็บต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องดู ซึ่งเราสามารถจัดการการแจ้งเตือนผ่านเมนูจุดสามจุด นอกจากนั้นทาง Google ยังบอกว่า Safety Check จะถอนการอนุญาตของเว็บ หากเราไม่ได้เข้าไปใช้งานเว็บนั้นเป็นระยะเวลานึง นอกจากนั้นทาง Google ยังประกาศฟีเจอร์ใหม่ เช่น Chrome tab groups
Google Chrome บน iOS เปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนตำแหน่งของ address bar ย้ายไปอยู่ด้านล่างของหน้าจอได้แล้ว ก่อนหน้านี้ทาง Google ได้ส่งสัญญาณในเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งมาวันนี้ได้ปล่อยให้ใช้งานในวงกว้างแล้ว โดยค่าพื้นฐานนั้นช่อง address bar จะอยู่ด้านบนของหน้าจอ หากใครอยากเปลี่ยนตำแหน่งไปเลือกเปลี่ยนได้ในการตั้งค่า หรือกดค้างที่ช่อง address bar จากนั้นจะมีเมนูขึ้นมาให้เลือกเปลี่ยน การย้ายตำแหน่งนี้ทำให้เหมือนกับ Safari ของ Apple ที่ย้ายตำแหน่งไปตั้งแต่ iOS 15 ซึ่งมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ข้อดีก็คือเมื่อช่องค้นหาอยู่ด้านล่างก็จะพิมพ์ง่ายขึ้น
