
หลาย ๆ คนน่าจะมีความเชื่อว่าการทานไข่มาก ๆ ทำให้คลอเรสเตอรอลสูงขึ้น แต่มีนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้ทดสอบทานไข่ 720 ฟองภายในระยะเวลา 1 เดือนก้ไม่พบคลอเรสเตอรอลสูงขึ้นแต่อย่างใด
ดร.นิค นอร์วิตซ์ (Nick Norwitz) นักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้กินไข่เกือบ 720 ฟองในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อทดสอบผลกระทบต่อคลอเรสเตอรอล แต่ผลที่ได้แตกต่างจากสิ่งที่เรารู้ ๆ กันมา ผลจากการที่ ดร. นอร์วิตซ์ ทานไข่ไป 720 ฟองต่อเดือนกลับชช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ได้จริง โดยระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ลดลงเกือบ 20% เลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจในการทดลองนี้คือเรื่อง คอเรสเตอรรอล ดร. นอร์วิตซ์ต้องทานไข่ไก่เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 ฟอง เมื่อคำนวนเป็นตัวเลขออกมาแล้วพบว่า ดร. นอร์วิตช์จะได้รับคลอเรสเตอรอลเพิ่มขึ้น 5 เท่า อยู่ที่ 133,200 มิลลิกรัมตลอดเดือน แต่ระดับ LDL ของ ดร. นอร์วิตซ์กลับลดลง 2% ในสัปดาห์แรกของการรับประทานไข่แบบนี้ ก่อนจะลดลงไปถึง 18% ในช่วงสัปดาห์หลัง ๆ ซึ่งเดิมที ค่า LDL ของ ดร. นอร์วิตช์จะอยู่ที่ 90 mg/dL ในช่วงรับประทานอาหารแบบชาวอเมริกันทั่วไป ซึ่งปกติ ควรต่ำกว่า 130 mg/dL
การทดลองของ ดร. นอร์วิตซ์ เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ และเป็นการเปิดประเด็นความเชื่อเดมิ ๆ เรื่องไข่และคอเลสเตอรอล โดยดร. นอร์วิตซ์ พบว่า แม้จะกินไข่มากถึง 720 ฟองในหนึ่งเดือน แต่ระดับ LDL กลับลดลงอย่างมีนัยยะ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเมแทบอลิซึมของแต่ละคนมีบทบาทสำคัญ และอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ตัวแปรเดียวที่กำหนดสุขภาพได้ขนาดนั้น นับเป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ต้องศึกษากันต่อไปครับ
ที่มา Times of India





