
สำหรับเด็กหลายคนใช้เวลากับหน้าจอทำให้มีความเสี่ยงสายตาสั้นมากขึ้น จะดีแค่ไหนถ้ามีเลนส์ที่ช่วยชะลอปัญหาสายตาสั้นในระยะยาวได้

ภาวะสายตาสั้นเกิดจากการโฟกัสภาพผิดตำแหน่ง ทำให้มองใกล้ชัดแต่มองไกลพร่ามัว ยิ่งปัจจุบันเด็กใช้เวลาอยู่กับหน้าจอและมองวัตถุใกล้มากขึ้น ทำให้จำนวนผู้มีภาวะสายตาสั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตามข้อมูลของ ดร.ไมเคิล เรปกา จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ เด็กมากถึง 30–40% มีภาวะสายตาสั้นเมื่อเรียนจบมัธยมปลาย ที่ผ่านมาแพทย์มีตัวเลือกจำกัด ส่วนใหญ่ทำได้เพียงสั่ง9YFแว่นเพื่อช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถชะลอความรุนแรงของสายตาสั้นได้
ล่าสุดทาง FDA ได้อนุมัติให้ Essilor Stellest เลนส์เฉพาะทางสามารถวางขายในสหรัฐฯ หลังจากที่ทำตลาดในในยุโรป เอเชีย และอีกหลายประเทศ จุดเด่นของเลนส์นี้คือ สามารถชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นในเด็กอายุ 6–12 ปี โดยข้อมูลจากบริษัทผู้พัฒนาระบุว่า หลังใช้งานสองปี เด็กมีระดับสายตาสั้นลดลงเฉลี่ยถึง 70%

เลนส์นี้ใช้ดีไซน์วงแหวน 11 ชั้นที่ประกอบด้วยจุดนูนขนาดเล็ก ช่วยปรับทิศทางแสงให้ตกบนจอประสาทตาอย่างถูกต้อง ลดการยืดตัวของลูกตา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสายตาสั้นที่รุนแรง พร้อมลดความเสี่ยงโรคตาในอนาคต เช่น ต้อกระจก ต้อหิน หรือจอประสาทตาหลุดลอก จากการทดลองกับเด็กที่ใช้เลนส์นี้ พบว่ามีอัตราการยืดตัวของลูกตาลดลงถึง 50% ในระยะเวลา 2 ปี
FDA ระบุว่า การใช้งานไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง แต่เด็กบางคนอาจเห็นแสงวาบรอบวัตถุเมื่อสวมเลนส์ ราคาขายอยู่ที่ 450 เหรียญหรือประมาณ 14,395 บาท
ก่อนหน้านี้ FDA เคยอนุมัติคอนแทคเลนส์ MiSight สำหรับเด็กอายุ 8–12 ปี แต่ผู้ปกครองจำนวนมากยังลังเลที่จะให้เด็กเล็กใช้คอนแทคเลนส์ ทำให้แว่นตาแบบ Stellest กลายเป็นทางเลือกที่ใช้งานง่ายกว่า
แม้ผลลัพธ์จากเอเชียจะน่าสนใจ แต่จักษุแพทย์อย่าง ดร.เรปกา ระบุว่าผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ อยากเห็นข้อมูลจากประชากรในประเทศมากขึ้น ก่อนใช้งานอย่างแพร่หลาย ปัจจุบันมีการทดลองทางคลินิกที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ
ที่มา abcnews





