บำรุงราษฎร์นำนวัตกรรมรักษา ‘โรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ’ ด้วยการกระตุ้นเส้นประสาทใต้ลิ้น (HNS)

THE SUMMARY:

โรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ หรือ Obstructive Sleep Apnea (OSA) ไม่ได้เป็นเพียงอาการรบกวนการนอน แต่เป็น “ภัยเงียบ” ที่คุกคามสุขภาพของผู้คนทั่วโลก ซี่งที่ผ่านมาการรักษาคือการใช้เครื่อง CPAP เพื่ออัดอากาศเปิดทางให้หายใจได้ในขณะนอนหลับ แต่ก็มีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถใช้เครื่อง CPAP ได้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงเริ่มต้นนำนวัตกรรมการผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นเส้นประสาทใต้ลิ้น (HNS) เข้ามาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มนี้

สาเหตุและกลุ่มเสี่ยงของโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ

โรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับเกิดจากการที่ ทางเดินหายใจส่วนต้นแฟบตัวลงขณะหลับ ทำให้ลมเข้าสู่ปอดได้ไม่เต็มที่หรือเข้าไม่ได้เลย ซึ่งอาจเกิดจากลิ้นหย่อนไปด้านหลัง ต่อมทอนซิลโต หรือสาเหตุอื่นๆ การขาดออกซิเจนเป็นระยะๆ ทำให้สมองต้องตื่นบ่อยเพื่อปลุกให้เราหายใจ ส่งผลให้คุณภาพการนอนไม่ดี

จากข้อมูลปี 2019 มีผู้ป่วยทั่วโลกมากถึง 936 ล้านคน ในประเทศไทย เพศชายวัยกลางคนพบโรคนี้บ่อยถึง 20-30% และเพศหญิง 10-15% โรคนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิต ตั้งแต่ความอ่อนเพลียในเวลากลางวันไปจนถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่อันตราย

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคนี้ ได้แก่:

  • เพศชาย มีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง 3 เท่า (แต่เพศหญิงวัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงสูงขึ้นจนเท่าเพศชาย เนื่องจากฮอร์โมนที่ช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงลดลง และไขมันสะสมรอบคอมากขึ้น)
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  • ผู้ที่มีสรีระบางอย่าง เช่น จมูกคด คางเล็ก หรือมีต่อมทอนซิล/อะดีนอยด์โต
  • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือใช้ยานอนหลับเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง (โดยเฉพาะผู้ที่ทานยาเกิน 3 ตัว มีโอกาสเสี่ยงสูงถึง 70-90%), เบาหวาน, โรคหัวใจและหลอดเลือด (หัวใจอุดตัน, หัวใจวาย, หลอดเลือดสมองตีบ/แตก), โรคสมองเสื่อม, พาร์กินสัน, หรือโรคลมชัก

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต

อาการที่บ่งชี้ว่าคุณหรือคนใกล้ชิดอาจเป็นโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ได้แก่:

  • นอนกรนเสียงดัง หรือมีคนรอบข้างบอกว่ามีการหยุดหายใจ
  • สะดุ้งตื่นกลางดึก
  • ตื่นมาไม่สดชื่น ปวดศีรษะ หรือคอแห้งเจ็บคอ
  • ปัสสาวะบ่อยกลางคืน
  • กัดฟันขณะนอนหลับ
  • ง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน สมาธิลดลง ความจำไม่ดี หรืออารมณ์หงุดหงิดง่าย

หากละเลยไม่รักษา โรคนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบ/แตก โรคอัลไซเมอร์ มะเร็งบางชนิด และภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในระยะยาว

แนวทางการรักษาในอดีตและเทคโนโลยีใหม่

พญ. ดารกุล พรศรีนิยม แพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยาและเวชศาสตร์การนอนหลับ, นพ. วิชพันธ์ เหมรัญช์โรจน์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก การผ่าตัดเนื้องอกและมะเร็งศีรษะและคอ และการผ่าตัดไซนัส และ ศ.นพ. ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ แพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก และโสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
พญ. ดารกุล พรศรีนิยม แพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยาและเวชศาสตร์การนอนหลับ, นพ. วิชพันธ์ เหมรัญช์โรจน์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก การผ่าตัดเนื้องอกและมะเร็งศีรษะและคอ และการผ่าตัดไซนัส และ ศ.นพ. ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ แพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก และโสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

การรักษาโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับมีหลายวิธี วิธีหลักที่ได้ผลดีที่สุดคือการใช้ เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) ซึ่งเป็นเครื่องอัดอากาศแรงดันบวกเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยประมาณ 50% ไม่สามารถทนใช้งานได้เนื่องจากความรู้สึกอึดอัดจากการสวมหน้ากาก หรือข้อจำกัดอื่นๆ ทางเลือกอื่นๆ ได้แก่ การลดน้ำหนัก การนอนตะแคง การใส่ฟันยาง หรือการผ่าตัด

ปัจจุบัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้นำ นวัตกรรมการกระตุ้นเส้นประสาทใต้ลิ้น (Hypoglossal Nerve Stimulation: HNS) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Inspire” มาเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เป็นนวัตกรรมเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยใช้รักษาผู้ป่วยแล้วกว่า 100,000 รายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย สำหรับประเทศไทย ได้รับการรับรองจาก อย. เมื่อปี พ.ศ. 2567 และเริ่มมีการนำมาใช้รักษาผู้ป่วยเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568

HNS เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่สามารถทนใช้งานเครื่อง CPAP ได้ ผู้สมัครต้องมีค่าดัชนีการหยุดหายใจและหายใจแผ่ว (AHI) อยู่ที่ 15-100 ครั้งต่อชั่วโมง และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่เกิน 40 กก./ตร.ม. รวมถึงต้องผ่านการตรวจส่องกล้องในขณะหลับ (DISE) เพื่อประเมินความเหมาะสม

HNS ทำงานอย่างไร และมีข้อดีอย่างไร

HNS เป็นอุปกรณ์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอกด้านขวา คล้ายกับเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ตัวกระตุ้น (Pulse Generator) สายตรวจจับลมหายใจ (Sensing Lead) ที่ซี่โครง และสายกระตุ้น (Stimulation Lead) ที่เส้นประสาทใต้ลิ้น

จุดเด่นและประโยชน์ของ HNS:

  • ไม่ต้องสวมหน้ากาก หรือเป่าลมขณะนอนหลับ ทำให้รู้สึกสบายตัวและไม่รบกวนการนอน
  • ไม่เกะกะ เนื่องจากฝังอยู่ภายในร่างกาย ทำให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แม้เดินทางไปต่างประเทศ
  • ควบคุมง่าย ด้วยรีโมทคอนโทรล
  • ช่วยให้นอนหลับได้ลึกขึ้น และตื่นมาสดชื่น
  • มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจาก FDA และมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่ำกว่า 2%
  • แบตเตอรี่มีอายุใช้งานยาวนาน 11 ปี

หลักการทำงาน:

  • เมื่อผู้ป่วยหายใจเข้า เซ็นเซอร์จะตรวจจับได้
  • เครื่องจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังเส้นประสาทใต้ลิ้น
  • ทำให้กล้ามเนื้อลิ้นตึงตัวและขยับมาด้านหน้า ช่วยเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
  • เครื่องจะทำงานโดยอัตโนมัติเฉพาะช่วงหายใจเข้าเท่านั้น ผู้ป่วยจึงไม่รู้สึกเมื่อยลิ้น
  • ผู้ป่วยสามารถเปิด-ปิดการใช้งานอุปกรณ์ได้ง่ายด้วยรีโมทคอนโทรล
เครื่องกระตุ้นที่ติดตั้งภายในร่างและ และรีโมทสำหรับเปิด-ปิดการทำงานของเครื่องจากด้านนอก
เครื่องกระตุ้นที่ติดตั้งภายในร่างและ และรีโมทสำหรับเปิด-ปิดการทำงานของเครื่องจากด้านนอก

ผู้ป่วยรายแรกที่บำรุงราษฎร์รับการรักษาเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มีอาการนอนหลับดีขึ้น ตื่นมาสดชื่น ฟื้นตัวเร็ว และไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แผลเล็ก และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-4 สัปดาห์ ก่อนจะเปิดใช้งานอุปกรณ์ 1 เดือนหลังผ่าตัด

ค่ารักษาด้วยวิธีการ HNS

เนื่องจาก HNS เป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งยังต้องซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัทอเมริกันจึงยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่คือ

  • แพ็กเกจผ่าตัดติดตั้งเครื่องกระตุ้น Hypoglossal Nerve Stimulation (HNS) ราว 1.6 ล้านบาท
  • ค่าใช้จ่ายในการทำ Sleep Test 30,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายในการส่องกล้องประเมินทางเดินหายใจเพื่อการผ่าตัด 75,000 บาท

โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์สูง ทั้งแพทย์เวชศาสตร์การนอนหลับ แพทย์ประสาทวิทยา ศัลยแพทย์โสต ศอ นาสิก และแพทย์วิสัญญีวิทยา ที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการรักษาแบบองค์รวมและดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน

การวินิจฉัยและรักษาโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในอนาคต HNS จึงเป็นนวัตกรรมที่มอบความหวังและทางเลือกใหม่ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพการนอนที่ดีและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...