แบงก์ชาติออกคำสั่งล็อกวงเงินโอนไม่เกิน 50,000 บาท/วัน ป้องกันประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอก !

THE SUMMARY:

ล่าสุด (19 สิงหาคม 2568) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการตราพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ.2568 เพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมจากมิจฉาชีพ

มาตรการใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันประชาชนจากภัยทุจริตทางการเงิน โดยเฉพาะปัญหาการถูกมิจฉาชีพกวาดเงินออกจากบัญชีผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงลดโอกาสที่มิจฉาชีพจะโอนเงินออกจากบัญชีได้รวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการกักเงินไว้ให้ผู้เสียหายได้รับคืน และป้องกันความเสียหายโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก และผู้สูงอายุ

มาตรการหลักที่มีการประกาศใช้

  1. จำกัดวงเงินโอนต่อวัน สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาให้วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท เมื่อโอนผ่าน mobile/internet banking โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มเปราะบาง แต่กำหนดให้ธนาคารต้องมีกระบวนการรองรับกรณีลูกค้าจำเป็นต้องโอนเงินฉุกเฉินเกินวงเงินกำหนด
  2. แจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีการโอนเงินออกจากบัญชีอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย
  3. ป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรม และกำหนดให้แอป mobile banking ห้ามแนบลิงก์เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย และให้ใช้เทคโนโลยี Biometric เปรียบเทียบใบหน้า และห้ามไม่ให้ใช้งานแอปเมื่อมีแอปที่มีความเสี่ยงกำลังทำงาน
  4. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าก่อนให้บริการ ต้องทำการรู้จักลูกค้า (KYC) ในกระบวนการเปิดบัญชีเงินฝาก กำหนดระดับลูกค้าที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าดำ/เทาเข้ม/เทาอ่อน เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ต้องมีการทำ EDD ตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงกับลูกค้าก่อนให้บริการ
  5. มีกระบวนการรับแจ้งเหตุภัยทุจริตดิจิทัลที่รวดเร็ว เป็นช่องทางเร่งด่วนทางโทรศัพท์ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในและนอกเวลาทำการ

ทั้งนี้ธปท. กำหนดให้ธนาคารดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และกับลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปีนี้

ที่มา : ch7

ที่มาภาพหน้าปก : Thairath

นักเขียนมือใหม่ที่อยากเรียนรู้เทคโนโลยีและข่าวรอบโลกไปพร้อมกับการเขียนบทความ

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...