
กลายเป็นมหากาพย์สงครามธุรกิจบันเทิงที่เดือดที่สุดในรอบทศวรรษ เมื่อล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานตรงกันว่า Paramount Global ได้ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery (WBD) แบบ “Hostile Takeover” หรือการเข้าซื้อกิจการแบบปรปักษ์ เพื่อแข่งกับ Netflix ที่เพิ่งประกาศปิดดีลไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
รายงานจาก Variety และ The Hollywood Reporter ระบุว่า Paramount ไม่ยอมแพ้ในศึกครั้งนี้ โดยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่าข้อเสนอของ Netflix และเป็นการขอซื้อกิจการ “ทั้งหมด” ของ WBD ไม่ใช่แค่ส่วนสตูดิโอและสตรีมมิง เหมือนที่ดีลของ Netflix ระบุไว้
Paramount เกทับข้อเสนอของ Netflix โดยระบุว่าเป็น “ทางเลือกที่ดีกว่า” สำหรับผู้ถือหุ้น โดยชูจุดเด่นเรื่องการรวมตัวกันของสองยักษ์ใหญ่ ระหว่าง Paramount และ Warner Bros. เพื่อสร้างมหาอำนาจสื่อดั้งเดิมที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อต่อกรกับบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Netflix และ Amazon โดยตรง แทนที่จะยอมถูกแยกชิ้นส่วนขาย
การยื่นข้อเสนอครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บอร์ดบริหารของ WBD ได้อนุมัติข้อตกลงกับ Netflix ไปแล้ว ทำให้ Paramount ต้องใช้วิธีเข้าหาผู้ถือหุ้นโดยตรง (Hostile Bid) เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ถือหุ้นปฏิเสธดีลของ Netflix และหันมาเลือกข้อเสนอของ Paramount แทน
นักวิเคราะห์มองว่า หากดีลของ Paramount สำเร็จ จะเกิดการรวมตัวของทรัพย์สินมหาศาล ทั้งสตูดิโอหนัง (Paramount Pictures + Warner Bros.) และเครือข่ายทีวี (CBS + ช่องเคเบิลของ WBD) ซึ่งอาจเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มข้นจากหน่วยงานกำกับดูแล (FTC) มากกว่าดีลของ Netflix
โดยขณะนี้ชะตากรรมของ Warner Bros. Discovery แขวนอยู่บนเส้นด้าย ผู้ถือหุ้นจะต้องเลือกระหว่าง:
ต้องจับตาดูท่าทีของ Netflix ว่าจะมีการยื่นข้อเสนอสู้กลับ (Counter-offer) เพื่อรักษาดีลประวัติศาสตร์นี้ไว้หรือไม่
อ้างอิง: Variety, Hollywoodreporter





