
สะเทือนวงการบันเทิงโลกส่งท้ายปี 2025 เมื่อ Netflix ประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้ (5 ธันวาคม) ว่าได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการส่วนธุรกิจสตูดิโอและสตรีมมิงของ Warner Bros. Discovery เป็นที่เรียบร้อย ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 82,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท)
ดีลประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมสื่อและสตรีมมิงไปตลอดกาล โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
Netflix ได้อะไรไปบ้าง? ภายใต้ข้อตกลงนี้ Netflix จะเข้าเป็นเจ้าของสินทรัพย์ระดับตำนาน ได้แก่:
การเข้าซื้อครั้งนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ Warner Bros. Discovery ทำการแยกธุรกิจ (Spin-off) ส่วนช่องเคเบิลทีวีเดิม (เช่น CNN, Discovery Channel, TLC) ออกไปตั้งเป็นบริษัทใหม่ในชื่อ “Discovery Global” ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2026 โดย Netflix เลือกที่จะไม่ซื้อส่วนธุรกิจช่องเคเบิลแบบดั้งเดิมเหล่านี้
Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix กล่าวว่า “ภารกิจของเราคือการสร้างความบันเทิงให้กับคนทั้งโลก การได้ผสานคลังผลงานอันน่าทึ่งของ Warner Bros. เข้ากับผลงานของ Netflix จะช่วยให้เราทำหน้าที่นั้นได้ดียิ่งขึ้น และร่วมกันกำหนดนิยามใหม่ของการเล่าเรื่องในศตวรรษหน้า”
ขณะที่ David Zaslav ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ระบุว่านี่คือการรวมตัวของ “สองบริษัทนักเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เพื่อส่งต่อเรื่องราวที่ทรงคุณค่าสู่ผู้ชมรุ่นต่อไป
นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คอนเทนต์ระดับพรีเมียมจำนวนมากมารวมอยู่บนแพลตฟอร์มเดียว อนาคตเราอาจได้เห็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์จาก HBO หรือภาพยนตร์ฮีโร่จาก DC มาฉายบน Netflix โดยตรง ซึ่งจะทำให้ Netflix กลายเป็นมหาอำนาจด้านความบันเทิงที่ยากจะมีใครมาต่อกร
ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า หลังผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
อ้างอิง: Netflix





