Unitree G1 โชว์ศักยภาพหุ่นแดนเซอร์ สร้างไวรัลกลางคอนเสิร์ตหวัง ลี่หง

กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลของจีน หลังหวัง ลี่หง ศิลปินชื่อดัง เต้นโชว์ร่วมกับหุ่นฮิวแมนนอยด์ Unitree G1 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่เรียกเสียงฮือฮาทั่วโลก เมื่อหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ G1 จากค่าย Unitree Robotics จำนวน 6 ตัวขึ้นเวทีเป็นแดนเซอร์ร่วมกับศิลปินดัง หวัง ลี่หง ในคอนเสิร์ต Best Place Tour ที่จัดขึ้นที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน

หุ่นยนต์ G1 เปิดตัวในปี 2024 มีความสูง 1.27 เมตร น้ำหนักราว 35 กิโลกรัม มาพร้อมข้อต่อ 23–43 จุด ให้แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร และเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 2 เมตรต่อวินาที

ในคอนเสิร์ต หุ่นยนต์ทั้งหมดสามารถเต้นประสานกันอย่างแม่นยำ ก่อนปิดโชว์ด้วยท่าตีลังกาหน้าพร้อมกัน สร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชม และกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่ อีลอน มัสก์ออกมาโพสต์ชื่นชมว่า “น่าประทับใจ”

ก่อนหน้านี้ G1 ยังคว้าเหรียญทองวิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร ในการแข่งขัน World Humanoid Robot Games ครั้งแรก ด้วยเวลา 33.71 วินาที ตอกย้ำศักยภาพด้านการเคลื่อนไหวระดับสูง

นอกจาก G1 แล้ว หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่น H1 ของ Unitree ยังเคยปรากฏตัวในงานถ่ายทอดสดตรุษจีน ซึ่งเป็นรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดของประเทศ ส่วนรุ่น R1 ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “สิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2025” จากนิตยสาร Time ยิ่งตอกย้ำบทบาทของ Unitree ในฐานะผู้เล่นหลักของวงการ

Unitree ได้รับการสนับสนุนจาก Alibaba Group และ Ant Group และเพิ่งเปิดตัว “ร้านแอปพลิเคชันหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์แห่งแรกของโลก” ให้ผู้ใช้อัปโหลดและแลกเปลี่ยนชุดข้อมูลและท่าการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ นอกจากนั้นบริษัทยังเตรียมทำ IPO เพื่อจดทะเบียนในตลาดหุ้น A-share ของจีน

ในระดับนโยบาย Wang Xingxing ผู้ก่อตั้ง Unitree ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์แห่งชาติ ร่วมกับ Peng Zhihui ผู้ร่วมก่อตั้ง AgiBot ซึ่งถูกยกให้เป็น “คู่ดาวเด่น” ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์จีน

ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ Tesla ก็เร่งพัฒนา Optimus อย่างต่อเนื่อง โดยนำมาจัดแสดงในงาน World Robot Conference 2024 ที่ปักกิ่ง และเผยวิดีโอความสามารถในการวิ่งเหยาะๆ บนแพลตฟอร์ม X อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรมยังชี้ว่าจีนเดินหน้าได้ไกลกว่าในเชิงระบบนิเวศ

รายงานของ Morgan Stanley ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จีนยื่นจดสิทธิบัตรด้านหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์มากถึง 7,705 ฉบับ ทิ้งห่างสหรัฐฯ ที่มี 1,561 ฉบับ และญี่ปุ่น 1,102 ฉบับอย่างชัดเจน สะท้อนว่าจีนไม่ได้เพียงโชว์ความล้ำหน้าเชิงสาธิต แต่กำลังสร้างความได้เปรียบเชิงโครงสร้าง ที่อาจกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์โลกในอนาคต

ที่มา scmp

หนุ่ย แซ่แต้

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol