Perplexity เครื่องมือค้นหา AI ที่ทุกคนควรใช้ แทน Google Search ได้เลย

เราอาจคุ้นเคยชื่อของ ChatGPT, Google Gemini หรือ Microsoft Co-Pilot กัน แต่อีกเครื่องมือที่มาแรงมากสำหรับคนที่ใช้ AI ในการค้นหาเรื่องราวคือ Perplexity ที่ถามอะไรกับมันก็ได้ แล้วมันจะหาคำตอบออกมาแบบน่าเชื่อถือกว่าใช้ AI ทั่วไปใช้ เพราะมันคือคำตอบที่หามาจากโลกอินเทอร์เน็ต แบบมีอ้างอิงทุกช่วงว่าที่มาของข้อมูลนี้มาจากเว็บไหน ให้ผู้ใช้พิจารณาต่อได้ว่าควรเชื่อข้อมูลนี้แค่ไหน หรือจะตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่มันอ้างอิงก็ได้

การทำงานหลักของ Perplexity คือพิมพ์ถามเข้าไป ซึ่งสามารถเลือกระดับการทำงานได้ 3 แบบคือ

1. สอบถามทั่วไปที่จะตอบข้อมูลออกมาได้เร็วที่สุด
2. โหมด Research โหมดค้นคว้าที่ใช้เวลาวิเคราะห์และได้คำตอบเชิงลึกออกมา โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที
3. โหมด Labs นอกจากค้นคว้าเชิงลึกแล้ว ยังสามารถสร้างภาพประกอบ, กราฟ, หรือแอปตัวเล็ก ๆ ได้ด้วย โดยใช้เวลาคิดหลัก 10 นาทีขึ้นไป

โหมดทำงานอื่น ๆ ของ Perplexity

นอกจากการพิมพ์ถามแล้ว Perplexity ยังมีโหมดสนทนาที่สามารถพูดคุยถามได้เหมือน AI ตัวอื่น ๆ และสามารถอัปโหลดรูปหรือไฟล์ขึ้นไปให้มันวิเคราะห์ได้อีกด้วย และยังสามารถแชร์สกรีนให้ AI ช่วยดูก็ได้ ซึ่งสามารถเอาไปใช้ได้หลากหลายแบบ เช่นถ่ายรูปต้นไม้แล้วถามเอไอว่าคือต้นอะไร หรือวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ตารางที่อยู่ในจอตรงหน้า

นอกจากนี้ยังสามารถเลือก AI Model ที่จะใช้ในการคิด ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็เลือกเป็น Best ให้มันคิดเองเลยว่าจะใช้โมเดลไหน แต่ถ้าอยากเลือกก็มีทั้งโมเดล Sonar ของ Perplexity เอง, Claude 4.0 Sonnet, GPT-4.1, Gemini 2.5 Pro หรือโมเดลฝั่งให้เหตุผลก็จะมีโมเดล R1 1776 ของ Perplexity แล้วก็มี Grok 4, OpenAI o3, o3-pro, Claude 4.0 Sonnet Thinking และ Cluade 4.1 Opus Thinking

แล้วเรายังสามารถใช้ Perplexity เพื่อสร้างรูปได้ด้วย แค่เปลี่ยนจากการตั้งคำถามเป็นป้อนพร้อมท์ให้สร้างรูปเข้าไป ซึ่งระบบจะเลือกโมเดลเจนรูปให้เอง แต่ก็สามารถเลือกเองได้ผ่าน Settings เป็น GPT Image 1, FLUX1 และ DALL-E 3

นอกจากนี้ Perplexity ยังมีโหมด Discover ที่เป็นเหมือนโหมดอ่านข่าวซึ่งจะใช้ AI สรุปเนื้อหาประเด็นนั้น ๆ จากหลายเว็บเรียงร้อยมาเป็นบทความให้อ่านกัน ซึ่งอัปเดตให้อ่านเรื่องใหม่กันได้เรื่อย ๆ แถมยังสามารถป้อนคำถามที่มีต่อข่าวนั้น ๆ ต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วย

ใช้ฟรีก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว

Perplexity มี 3 ระดับราคาคือใช้ฟรี, Pro แล้วก็ Max ซึ่งมีความแตกต่างคือ

ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไป รุ่นฟรีก็เพียงพอแล้วสำหรับการค้นหาคำตอบในชีวิตประจำวัน แต่ใครที่ต้องการความสามารถระดับสูงก็สามารถจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดได้

ใครที่สนใจแล้วก็สามารถใช้งานได้ที่เว็บ Perplexity หรือโหลดแอป Perplexity มาใช้ก็ได้ มีให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS, Android, Windows, Mac

เอกพล ชูเชิด

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท