World ยอมชะลอสแกนม่านตาแลกเหรียญ รอพิสูจน์มาตรการทำลายข้อมูลส่วนตัวโดย PDPC

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ Tools for Humanity บริษัทผู้พัฒนา World โครงการสแกนม่านตาเพื่อแลกเหรียญดิจิทัล เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ประชุมมีมติให้บริษัทชะลอการดำเนินการสแกนม่านตาออกไปก่อน จนกว่าจะมีการพิสูจน์มาตรการลบทำลายข้อมูลให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุม สคส. อาคารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิจาก สคส. นำโดย พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ และนายปริญญา หอมเอนก พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.), กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ ได้แก่ บริษัท ทีไอดีซี เวิลด์เวิร์ส จำกัด, บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ ดิจิทัล โซลูชั่นส์ จำกัด และบริษัท Tools for Humanity (TFH) ซึ่งเป็นผู้พัฒนา World

ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นสำคัญ 3 ด้าน ดังนี้:

1. มาตรการจัดเก็บและลบทำลายข้อมูล: บริษัทชี้แจงว่าหลังจากการสแกนม่านตา ข้อมูลภาพจะถูกแปลงเป็นรหัส (iris code) และภาพม่านตาต้นฉบับจะถูกลบทำลายภายใน 12 วินาที อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่าหลักฐานในประเด็นนี้ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงได้เสนอให้มีการจัดงานพิสูจน์กระบวนการลบทำลายข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะ
2. มาตรการป้องกันมิจฉาชีพ: บริษัทได้ชี้แจงมาตรการป้องกันการหลอกลวงประชาชนเพื่อรับจ้างสแกนม่านตา โดยมีการติดตั้งป้ายประกาศแจ้งเตือน ณ จุดสแกน มีมาตรการดูแลพื้นที่ทุกจุด และได้จดแจ้งเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (DSP) กับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) แล้ว
3. มาตรการขอความยินยอม: บริษัทระบุว่ามีการแจ้งรายละเอียดขั้นตอนและวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลอย่างครบถ้วน และจะมีการติดตั้งป้ายประกาศให้รายละเอียดที่ชัดเจน ณ จุดให้บริการสแกนม่านตา แยกต่างหากจากเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (privacy notice)

เนื่องจากการแสดงหลักฐานเรื่องการลบทำลายข้อมูลยังไม่ชัดเจน ที่ประชุมจึงได้แนะนำให้มีการพิสูจน์หลักฐานให้แน่ชัด ทางบริษัทจึงแสดงความยินดีที่จะชะลอการดำเนินการสแกนม่านตาออกไปก่อน จนกว่าจะมีการกำหนดวันแสดงหลักฐานและพิสูจน์มาตรการดังกล่าวต่อสาธารณชน เพื่อสร้างความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจให้กับสังคมต่อไป

อ้างอิง: PDPC Thailand

เอกพล ชูเชิด

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท