บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิ 2.0 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นการทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์โครงข่ายขัดข้องชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้บริการและจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวลดลง
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ทรู คอร์ปอเรชั่น มีผลการดำเนินงานทางการเงินที่สำคัญดังนี้:
ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 47.5 ล้านเลขหมาย ลดลง 2.9 ล้านเลขหมายจากไตรมาสก่อนหน้า บริษัทชี้แจงว่าการลดลงนี้เป็นผลมาจากความพยายามในการลดฐานลูกค้าที่ไม่มีคุณภาพ, ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ในขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านยังคงเติบโต โดยเพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.8 ล้านราย และมีผู้ใช้บริการ 5G จำนวน 14.7 ล้านเลขหมาย
การบริหารจัดการต้นทุนและปรับเป้าหมายปี 2568 จุดเด่นในไตรมาสนี้คือการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ลดลง 8.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการ (Synergy) และการปรับปรุงประสิทธิภาพ จากสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทได้ปรับเป้าหมายการดำเนินงานทั้งปี 2568 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการจะทรงตัวถึงเติบโต 1% ขณะที่คาดการณ์การเติบโตของ EBITDA อยู่ที่ 7-8% และยังคงเป้าหมายที่จะมีกำไรตลอดทั้งปี 2568 ไว้เช่นเดิม
ทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ซึ่งขับเคลื่อนโดยการบริหารจัดการต้นทุนและผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ต้องมีการปรับเป้าหมายรายได้สำหรับทั้งปี