
สคส. (PDPC) สั่งระงับและลบข้อมูลสแกนม่านตาแลกเหรียญคริปโทจำนวน 1.2 ล้านราย เนื่องจากผิดกฎหมาย PDPA ไม่ลบข้อมูล-ใช้เหรียญจูงใจ-วัตถุประสงค์ไม่ครบ-ติดตามข้อมูลย้อนกลับได้

หลังจากที่มีกรณีร้องเรียนกรณีโครงการ Worldcoin ที่ได้สร้างความสนใจและกังวลในสังคมเป็นวงกว้าง ผ่านกิจกรรมการให้ประชาชนสแกนข้อมูลม่านตา ซึ่งเป็นข้อมูลชีวภาพที่มีความอ่อนไหวสูง เพื่อแลกกับการได้รับเหรียญดิจิทัล “World Coin” ตอนนี้คนไทยเข้าร่วมโครงการและถูกเก็บข้อมูลม่านตาไปแล้วประมาณ 1.2 ล้านราย
เนื่องจากข้อมูลม่านตา (Iris Data): เป็นข้อมูลชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะตัวสูง สามารถใช้ยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำเทียบเท่ากับ DNA และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ การรั่วไหลของข้อมูลม่านตาอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงถาวรต่อเจ้าของข้อมูล
ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.; PDPC) ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบการกระทำความผิดตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) อย่างชัดเจน พร้อมสั่งให้ระงับการเก็บรวบรวมข้อมูลม่านตาทั้งหมดทันที และ สั่งให้ลบข้อมูลม่านตาและข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้เก็บรวบรวมไปแล้ว
จุดเริ่มต้นของการสแกนม่านตาเกิดขึ้นในรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้เซ็น บันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Prime Opportunity Fund VCC เพื่อจัดตั้ง “Thailand International Digital Business and Finance Center” (TIDC) เพื่อทำ Sandbox โดยมีวัตถุประสงค์ด้านวิเคราะห์และวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่านั้น
จุดที่น่าสังเกตคือ MOU ฉบับนี้เริ่มต้นจากฝ่ายการเมือง ใช้เวลารวบรวมความเห็นจาก 3 หน่วยงานและลงนามสำเร็จภายในเวลาเพียง 3 วัน ไม่ได้ถูกเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา มีเนื้อหาครอบคลุมธุรกิจที่มีความเสี่ยง เช่น Sport Betting และ Online Gaming โดยไม่ได้มีการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กระทรวงมหาดไทย
ส่วน Worldcoin นั้นมีความเชื่อมโยงกับ บริษัท TIDC Worldverse เป็นบริษัทในเครือ TIDC Group ที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้ MOU ฉบับนี้ เป็นผู้ยื่นขออนุญาตทำโครงการสแกนม่านตากับ ETDA และ PDPC แต่ถูกปฏิเสธทั้งสองหน่วยงาน
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ คนปัจจุบันได้ สั่งยกเลิก MOU ฉบับดังกล่าวแล้ว พร้อมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตรวจสอบในมิติอื่นๆ
จริงๆ แล้วตัว World Coin นั้นเป็นเหรียญคริปโทที่ใช้งานทั่วโลก ซึ่งการระงับในครั้งนี้เฉพาะเหรียญที่ได้จากการสแกนม่านตาเท่านั้น เนื่องจากพบว่ามีการทำผิดกฎ PDPA หลายข้อ

ทาง PDCP จะมีการสั่งปรับตามอำนาจ โดยทางคณะกรรมการฯ กำลังพิจารณาโทษปรับทางปกครองซึ่งอาจมีมูลค่าสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อรายบุคคลที่ได้รับผลกระทบ
ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาตามความรับผิดชอบและความเสียหายที่เกิดขึ้น สำหรับประชาชนที่เสียหาย ไม่รู้ว่าเอาข้อมูลไปทำอะไรหรือไม่รู้ว่าต้องได้รับเหรียญเป็นรายเดือน สามารถขอความช่วยเหลือหรือแจ้งความหรือได้ที่สถานีตำรวจหรือติดต่อทางสคส.เพื่อดำเนินคดีได้





