KBTG Techtopia 2025 งานใหญ่สายเทคปีที่ 3 กับ 6 ทางแยกสำคัญของ AI ที่มนุษย์ต้องตัดสินใจ

KBTG Techtopia งานสัมมนาเทคโนโลยีครั้งใหญ่จาก KBTG (KASIKORN Business-Technology Group) ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “At World’s Beginning” ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการกำหนดอนาคตว่าเราจะใช้ชีวิต ทำงาน และเชื่อมโยงกันอย่างไร

KBTG Techtopia ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สาม โดยปีแรกมีธีม “AI Verse” และปีที่สองคือ “Blast from the Future” ในปีนี้ งานได้มุ่งเน้นไปที่ เจ็ดเสาหลักสำคัญของเทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีและ AI เพื่อมนุษยชาติ, ภูมิรัฐศาสตร์ของเทคโนโลยีเกิดใหม่, เทคโนโลยีที่ยั่งยืนและการฟื้นตัวจากสภาพภูมิอากาศ, การดูแลสุขภาพและเทคโนโลยีชีวภาพ, อนาคตของกำลังคนและการเรียนรู้, ความมั่นคงทางไซเบอร์, รวมถึงเทคโนโลยีเกิดใหม่และเทคโนโลยีบุกเบิก

งานประกอบด้วย สามเวทีหลัก โดยเวทีหลักจะเน้นที่วิสัยทัศน์ใหญ่และความเป็นผู้นำทางความคิด นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่:

• Showcase Exhibition: จัดแสดงนวัตกรรมจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น AWS, Google Cloud, Huawei และ IBM
• Community Circle: เป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมต่อกับชุมชนเทคโนโลยีที่มีชีวิตชีวาที่สุดของประเทศไทย เช่น Data Rocky, UX Thailand, Mal Learn, AI for Business and Society และ No Code AI
• Playground Workshops: มีเวิร์กช็อปที่นำโดยผู้เชี่ยวชาญแปดหัวข้อสำหรับผู้ที่ต้องการลงมือปฏิบัติจริง ผู้เข้าร่วมงานสามารถตรวจสอบตารางกิจกรรมฉบับเต็มได้จากบอร์ดหน้างานหรือสแกน QR Code ด้านหลังป้ายชื่อ และหากพลาดการเข้าร่วมเซสชันใด ๆ สามารถรับชมย้อนหลังได้บน Zip event เป็นเวลา 30 วัน

คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้กล่าวเปิดงานในหัวข้อ “AI เปลี่ยนแปลงมนุษยชาติอย่างไร และมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร” โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของ AI ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ Generative AI ไปจนถึง Agentic AI และนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น Nvidia Blackway Ultra และ GPT-5

แม้จะมีการพูดถึง “AI Winter” หรือช่วงซบเซาของ AI แต่คุณกระทิงมองว่าฤดูหนาวของ AI กำลังสั้นลงเรื่อย ๆ และเป็นเพียงช่วงเวลาแห่งความผิดหวังชั่วคราว ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง “Slope of Enlightenment” และ “Plateau of Productivity”

การปลดล็อกคุณค่าของ AI ไม่ได้อยู่ที่ AI เพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การเลือกใช้กรณี (use case) ที่เหมาะสม, การมีข้อมูลพื้นฐานที่มีคุณภาพ, การเลือกโมเดล AI ที่ถูกต้อง, การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน, การกำกับดูแล, การมีบุคลากรที่มีความสามารถ, และความเป็นผู้นำที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นจากการสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลที่ดี, การนำ AI มาใช้ในแอปพลิเคชัน, การทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติ, และการเปลี่ยนแนวคิดจาก “+AI” เป็น “AI+”

คุณกระทิงยังได้กล่าวถึง หกทางแยกสำคัญของ AI ที่มนุษย์จะต้องตัดสินใจ:

1. AI Agents: เป็นเครื่องมือที่สะท้อนถึงผู้สร้าง ซึ่งอาจมีอคติหรือแง่ลบ การตัดสินใจว่าจะใช้ AI เพื่อสิ่งที่ดีขึ้นหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับมนุษย์
2. การกำกับดูแลและควบคุม AI: ต้องใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ มีธรรมาภิบาล และสอดคล้องกับค่านิยมที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เหมือนกับการควบคุมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอดีต
3. การประยุกต์ใช้เชิงปฏิบัติเทียบกับ AGI (Artificial General Intelligence): ต้องสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานในการสร้าง AGI กับการประยุกต์ใช้ AI ในทางปฏิบัติ
4. ความร่วมมือระดับโลก: ไม่มีชาติหรือบริษัทใดสามารถแก้ไขความท้าทายของ AI ได้เพียงลำพัง จำเป็นต้องรวมพลังกันทั้งภาครัฐและเอกชน “You never walk alone” และทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของ AI
5. AI ผู้บริโภคทรัพยากร หรือ เทคโนโลยีจอกศักดิ์สิทธิ์: AI ใช้ทรัพยากรจำนวนมาก (เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำ และแรงงานคน) ดังนั้นต้องใช้แนวคิด “Efficiency First” และ “Sustainability First” เพื่อให้ AI เป็นแพลตฟอร์มแห่งนวัตกรรมที่ยั่งยืน
6. AI สร้างความเท่าเทียม หรือ เพิ่มความเหลื่อมล้ำ: ไม่ควรให้ AI ขยายความเหลื่อมล้ำ แต่ควรใช้เพื่อขยายและทำให้ความฉลาดเป็นประชาธิปไตย เพื่อสร้างยุคแห่งความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรืองที่เท่าเทียมกัน

คุณกระทิงสรุปว่า AI เพียงอย่างเดียวจะไม่เปลี่ยนโลก แต่เป็นมนุษย์ที่ใช้ AI ต่างหากที่จะเปลี่ยนโลก การรวมกันของมนุษย์กับ AI สามารถเป็น “แสงแห่งความหวังสำหรับมนุษยชาติ” ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น การค้นพบยา การดูแลสุขภาพ หรือการเข้าถึงความเท่าเทียม KBTG มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรระดับโลกหลายแห่ง และร่วมมือกับ MIT Media Lab

เอกพล ชูเชิด

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท