“กิฟฟารีน” แบรนด์ขายตรงที่คนไทยรู้จักกันดี เปิดตัว “Giffarine AI Coach” โซลูชัน AI ที่พัฒนาร่วมกับ Microsoft และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Consulting อย่าง Frontis เพื่อสร้างโค้ชส่วนตัวสำหรับนักธุรกิจกิฟฟารีนให้พัฒนาการทำงานโดยเฉพาะการไลฟ์ขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถช่วยสร้างสคริปต์ และให้คำแนะนำกับวิดีโอไลฟ์ที่ทำมาแล้วเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นผู้ช่วยและโค้ชส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งเมื่อ AI เป็นผู้แนะนำ ทำให้นักขายเปิดใจยอมรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ง่ายขึ้น ต่างจากการรับฟังคำแนะนำจากมนุษย์ที่อาจนำไปสู่ความไม่พอใจ
นายปริญญ์ บุญดีสกุลโชค CEO & Managing Partner ของ Frontis กล่าวถึงหัวใจสำคัญของการพัฒนา Giffarine AI Coach ว่า เทคโนโลยี AI ในปัจจุบันได้ก้าวข้ามจากการให้เพียงข้อมูลไปสู่การมอบความฉลาด ความแตกต่างที่สำคัญคือ AI Coach ไม่เพียงแต่เข้าใจภาษามนุษย์หรือภาษาไทย แต่สามารถ “พูดภาษาของกิฟฟารีน” ที่หมายถึง AI สามารถเข้าใจบริบทเฉพาะของธุรกิจขายตรง สินค้าของกิฟฟารีน และลักษณะเฉพาะของกลุ่มลูกค้า รวมถึงบุคลิกของนักขายแต่ละคน
การพัฒนา AI Coach ใช้แนวทาง Agile ที่มีการนำ AI รุ่นแรกไปให้ผู้เชี่ยวชาญของกิฟฟารีน (เช่น แพทย์หญิงนลินี) ทดสอบและให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับปรุงจาก AI ที่ตอบถูกแต่ดูน่าเบื่อ ให้กลายเป็น AI ที่แนะนำได้อย่างน่าสนใจและตรงจุด ผ่านการเรียนรู้จากนักขายที่ประสบความสำเร็จที่สุดของกิฟฟารีน องค์ความรู้ที่ใช้ในการฝึกฝน AI มาจากฐานข้อมูลสินค้ากว่า 1,000 SKU ของกิฟฟารีน (ซึ่งรวมถึงสีและเฉดต่าง ๆ ทำให้มีมากกว่า 2,000 รายการ) รวมถึงศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสาร การจัดทำโครงเรื่อง และเทคนิคการขายจากประสบการณ์จริงของกิฟฟารีนตลอด 29 ปี
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เน้นย้ำว่า โครงการนี้สอดคล้องกับพันธกิจของ Microsoft ที่ต้องการเสริมศักยภาพให้กับทุกคนบนโลกใบนี้ โดยมองเห็นโอกาสในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 400,000 ราย ซึ่งมีภูมิหลังที่หลากหลาย AI Coach จึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้ทักษะ AI ทั่วไป แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อสร้างผลลัพธ์โดยตรงกับการทำงานของพวกเขา
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ชี้ว่า AI Coach จะช่วยลด Disruption ในกลุ่มนักธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่มีงานหลักและต้องการหารายได้เสริม หรือผู้ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจจนไม่มีงานทำ AI Coach ช่วยให้คนเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะอยู่บ้าน และสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนได้
กิฟฟารีนลงทุนเกือบ 10 ล้านบาทกับการพัฒนา AI Coach ในครั้งนี้เพื่อเสริมความแกร่งของนักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มต้องหารายได้เสริมมากขึ้น โดยแพ็กเกจใช้บริการ 300 บาทสามารถเขียนได้ราว 100 สคริปต์ ส่วนถ้านำวิดีโอไปให้ AI วิเคราะห์ก็จะคิดเครดิตตามจำนวนนาทีของวิดีโอ
นายปริญญ์ บุญดีสกุลโชค เสริมว่า ในยุคที่ AI พัฒนาก้าวกระโดด การนำ AI มาใช้เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องสร้าง AI Advantage หรือ ความได้เปรียบจาก AI โดย Giffarine AI Coach ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นสารเร่งที่เปลี่ยนความพยายามให้กลายเป็นความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลกลยุทธ์การขายและสไตล์การพูดที่แตกต่างกันได้มากกว่า 25,000 ล้านรูปแบบ (คิดจากจำนวนผลิตภัณฑ์ของ Giffarine คูณรูปแบบสคริปต์ที่ต้องการให้เขียน และรูปแบบลักษณะผู้พูดที่ไกด์ได้อีกมากมาย) AI Coach จึงเป็นผู้ช่วยที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
AI Coach จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถพัฒนาการขาย การสื่อสาร และการนำเสนอสินค้าให้โดนใจผู้บริโภคมากที่สุดในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หรือมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด ก็สามารถเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ และเป็นการตอกย้ำว่า AI จะไม่เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่จะเสริมพลังและช่วยให้มนุษย์ก้าวไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น