รีวิว Sennheiser HD 550 จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการหูฟัง Open Back ที่ดี

ถ้าพูดถึงหูฟังครอบศีรษะแบบมีสายที่คนทั่วไปรู้จักกันมากที่สุดก็ต้องแบรนด์ Sennheiser จากเยอรมันครับ โดยเฉพาะหูฟังตระกูล Sennheiser HD ที่ออกรุ่นแรกคือ HD 110 มาตั้งแต่ปี 1966 แล้วก็ออกต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันกับ HD 550 ที่เราจะรีวิวในครั้งนี้

เข้าใจชื่อของ Sennheiser HD 550

Sennheiser HD 550

ตัวย่อ HD ในชื่อรุ่นนี้ไม่ได้หมายถึง High Definition หรือความคมชัดสูงตามสมัยนิยมนะครับ ต้องคิดว่าหูฟังตระกูลนี้ออกมาตั้งแต่ยุค 60s ตัวอักษร HD จึงหมายถึง Headphone, Dynamic หรือหูฟังที่มีไดรเวอร์แบบไดนามิกนั้นเอง แล้วรหัสรุ่น 3 ตัวด้านหลังจะบอกหลายอย่าง

เลขตัวแรกบอกซีรีส์ของหูฟัง ยิ่งเลขเยอะยิ่งเป็นหูฟังระดับสูง ราคาแพง เช่น

  • 200 Series เป็นกลุ่มหูฟังราคาประหยัด
  • 400 Series หูฟังสำหรับใช้งานทั่วไป
  • 500 Series กลุ่มเริ่มต้นสำหรับ Hi-Fi
  • 600 Series หูฟัง Hi-Fi ระดับกลาง
  • 800 Series หูฟังเรือธงของค่าย เป็นรองแค่กลุ่ม Orpheus หูฟังระดับตำนานของ Sennheiser เท่านั้น
(จากซ้ายบน) Sennheiser HD 400, HD 505, HD 550, HD 600, HD 660S2, HD 820
(จากซ้ายบน) Sennheiser HD 400, HD 505, HD 550, HD 600, HD 660S2, HD 820

และเลข 2 ตัวท้ายจะระบุคุณสมบัติของหูฟังเช่น

  • x20 จะเป็นหูฟังแบบ Closed-Back หรือด้านหลังของหูฟังปิด เสียงไม่ลอดออกไป เช่นรุ่น HD 820, HD 620S
  • x00 กับ x50 คือจูนเสียงแบบเป็นธรรมชาติ เช่น HD 550
  • x60 คือจูนเสียงให้ติดโทนอุ่น เช่น HD 660S2
  • xx5 ใช้ระบุรุ่นพิเศษที่วางขายในบางแห่ง.

เพราะฉะนั้น Sennheiser HD 550 คือหูฟังระดับกลางของ Sennheiser และเป็นหูฟังกลุ่มเริ่มต้นสำหรับ Hi-Fi ที่จูนเสียงมาเป็นธรรมชาติ และเป็นหูฟังแบบ Open Back คือด้านหลังไดรเวอร์จะเป็นตะแกรงเพื่อถ่ายเทอากาศ ทำให้ความรู้สึกในการฟังเหมือนฟังลำโพงอยู่ มีความโปร่งเป็นธรรมชาติมากกว่าหูฟังแบบ Closed Back แต่หูฟังลักษณะนี้จะไม่กั้นเสียงภายนอก และถ้าเราเปิดเพลงดัง มันจะดังออกไปนอกหูฟังด้วยครับ

ดีไซน์ของ Sennheiser HD 550

งานออกแบบของ Sennheiser HD 550 นั้นรักษาเอกลักษณ์ของหูฟังตระกูล HD 500 ไว้ครับ ส่วนที่เด่นที่สุดคือตะแกรงโลหะด้านนอกสุดที่กินส่วนใหญ่ของหูละข้าง โดยมีโลโก้ของ Sennheiser วางลอยอยู่เด่น ๆ บนตะแกรง แล้วส่วนประกอบอื่น ๆ ของหูฟังแต่ละข้างจะเป็นพลาสติกเป็นหลัก

ตัวแป้นหูฟังรุ่นนี้เป็นผ้ากัมมะยี่สังเคราะห์ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ สามารถครอบทั้งหูได้สบาย ๆ โดยไม่มีส่วนไหนทับใบหู ตัวก้านบีบให้น้ำหนักกดหูกำลังดี ไม่แน่นจนเกินไป แต่ตัวแป้นครอบหูบางไปนิดเลยรู้สึกน้ำหนักกระจุกอยู่รอบหูนิดหน่อย ส่วนที่คาดศีรษะเป็นหนังสังเคราะห์ที่เห็นได้ทั่วไปในหูฟังแบบครอบศีรษะ ซึ่งมีก็โอกาสที่จะเสื่อมจนร่อนเป็นแผ่น ๆ ออกมาอยู่ครับ ซึ่งหูฟังรุ่นนี้มีน้ำหนัก 237 กรัม ซึ่งถือว่าเบาใช้ได้เลย เบากว่า AirPods Max อยู่ 150 กรัม

ตัวสายที่ให้มานั้นยาวถึง 1.8 เมตร ซึ่งทำให้ใช้งานได้ยืดหยุ่น เช่นเสียบกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานก็สามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนรอบคอมพิวเตอร์ได้สะดวก ส่วนถ้าเสียบกับเครื่องเล่นเพลงจากกระเป๋าก็อาจจะรู้สึกว่าสายยาวเกินไปบ้าง แต่เราก็คิดว่าให้สายที่ยาวมานั้นดีกว่าให้สายสั้นมาครับ

ปลายสายทั้ง 2 ข้างที่ให้มาในกล่อง
ปลายสายทั้ง 2 ข้างที่ให้มาในกล่อง

ซึ่งหูฟังตระกูลนี้สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ โดยสายด้านที่เสียบเข้ากับหูฟังข้างซ้ายนั้นจะเป็นแบบ 2.5 mm และเป็นหัวล็อกแบบพิเศษของ Sennheiser ที่สามารถหมุนเพื่อปลดล็อกและดึงออกมาได้ ส่วนหูฟังอีกด้านที่ใช้เสียบอุปกรณ์อื่นจะเป็นแบบ 3.5 mm ซึ่งมาพร้อมหัวแปลงไขเกลียวเป็นแจ็ค 6.35 mm ส่วนถ้าใครต้องการหัวต่อแบบ Balanced อย่าง 4.4mm ก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้

นอกจากนี้ในกล่องยังมีถุงผ้าสำหรับการพกพาหูฟัง แต่ก็สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนเท่านั้น ไม่ได้ใช้ป้องกันการตกกระแทก และหูฟังรุ่นนี้ก็ไม่ได้ดีไซน์ให้พับจนเล็กได้ไปกว่าการหดก้านหูฟังเข้าไปจนสุดเท่านั้น

อุปกรณ์ภายในกล่องของ Sennheiser HD 550
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Sennheiser HD 550

ดีไซน์ของ Sennheiser HD 550 นั้นเหมือนกับ HD 505 ที่ออกมาไล่เลี่ยกัน แต่โทนสีต่างกัน โดย HD 550 ใช้สีดำ-เงิน ส่วน HD 505 ใช้สีดำ-ทองแดง และแน่นอนว่าโทนเสียงก็ต่างกันด้วย โดย HD 505 จะเน้นรายละเอียดเสียงกลาง-แหลมมากกว่า แต่เบสน้อยกว่า HD 550

เสียงของ Sennheiser HD 550

ตัวไดรเวอร์และแป้นกัมมะยี่ของ Sennheiser HD 550
ตัวไดรเวอร์และแป้นกัมมะยี่ของ Sennheiser HD 550

สเปกเสียงของหูฟังรุ่นนี้คือ รองรับความถี่ตั้งแต่ 6 ถึง 39,500 Hz คือเป็นหูฟังที่รองรับเสียงระดับ Hi-Res ผ่านไดรเวอร์ขนาด 38mm ความต้านทาน 150 Ω ที่ผลิตในโรงงานของ Sennheiser เองในไอร์แลนด์ ซึ่งความต้านทานระดับนี้ถือว่าเป็นความต้านทานระดับกลางค่อนไปทางต่ำ คือเครื่องเล่นเพลงตัวเล็ก ๆ ก็มีกำลังขับมากพอที่จะขับหูฟังรุ่นนี้ได้ดังพอ เราทดลองกับ Sony Walkman A105 ซึ่งนับเป็น Walkman รุ่นเล็ก และ Sony Xperia 1 VII ก็เปิดฟังเพลงกลางห้างที่มีเสียงรบกวนได้สบาย ๆ โดยความดังสูงสุดของหูฟังรุ่นนี้คือ 106.7 dB

ลักษณะเสียงของ Sennheiser HD 550

ถ้าดูลักษณะกราฟเสียงจากผู้ผลิต จะเห็นว่า HD 550 ให้เสียงได้ใกล้เคียงกับรุ่น HD 599 หูฟังรุ่นยอดนิยมของค่าย แต่มีการเพิ่มเสียงเบสให้อิ่มขึ้น และมีการจูนย่านเสียงกลางอีกนิดหน่อย ส่วนทำไมลักษณะกราฟเสียงต้องมีดรอปเสียงแถว ๆ 7,000 ถึง 10,000 Hz Sennheiser บอกว่าเพราะลักษณะของช่องหูคนที่มีการสะท้อนของเสียงในช่วงนี้ได้ดี ทำให้เสียงดังขึ้นกว่าย่านอื่น ๆ จึงต้องมีการดรอปเสียงย่านนี้เพื่อไม่ให้รบกวนเกินไปครับ

ลักษณะเสียงของ Sennheiser HD 550 คือ

  • เบส: นุ่ม ละมุน ให้เบสเยอะกว่าหูฟังซีรีส์ 500 รุ่นอื่น ๆ แต่ไม่เยอะขนาดหูฟังไร้สายส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเบสที่กำลังสวย ไม่บวม ไม่ไปกวนเสียงกลาง
  • เสียงกลาง: สง่างาม เสียงธรรมชาติไม่รู้สึกถูกปรุงแต่งจนแปลกหู ให้เสียงร้องมีชีวิต
  • เสียงแหลม: ให้รายละเอียดดี แต่ไม่ใช่หูฟังที่ให้รายละเอียดเสียงแหลมได้วิบวับ ยังคงลักษณะเสียงที่นุ่มนวลไว้ ทำให้ฟังต่อเนื่องได้ยาวนาน
  • Soundstage: กว้างกลาง ๆ แยกชิ้นเครื่องเสียงต่าง ๆ ได้ดี
ใช้หูฟัง Sennheiser HD 550 คู่กับ Sony Xperia 1 VII
ใช้หูฟัง Sennheiser HD 550 คู่กับ Sony Xperia 1 VII

สรุปเสียงของ Sennheiser HD 550 เป็นเสียงที่ฟังง่าย ถูกจูนให้เป็นทางอุ่นนิด ๆ เหมาะกับการฟังเพลงสบายเป็นเวลานาน เสียงติด Color น้อย แต่มีการเน้นเสียงกลางให้ชัดเจน ผสมกับเบสที่ละมุน เบสไม่เยอะ แต่ฟังเพลิน

สิ่งที่ควรรู้สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยหูฟังแบบ Open Back คือมันแทบไม่กันเสียงภายนอกเลยนะครับ ถ้าคุณเอาไปใช้กลางห้าง ก็จะได้ยินเสียงบรรยากาศรอบตัวชัดไปหมด เหมือนคุณนั่งฟังลำโพงอยู่กลางห้าง เพลงของคุณก็จะผสานไปกับเสียงบรรยากาศของห้างเลย ถ้าต้องการหูฟังที่สามารถฟังเพลงได้ชัด ๆ แม้รอบข้างมีเสียงคงต้องดูรุ่นอื่นนะ

การนำไปใช้เล่นเกม

HD 550 น่าจะเป็นหูฟังตระกูลนี้ตัวแรก ๆ ที่ Sennheiser พยายามสื่อสารการตลาดไปถึงเกมเมอร์ด้วยว่ามันใช้เล่นได้นะ ด้วยความที่เป็นหูฟังสาย เสียงในเกมจึงไม่มีแลคเลย และเน้นเสียงที่เป็นธรรมชาติโปร่งสบาย ได้ยินดีเทลชัด จึงใช้ได้กับเกมหลายประเภท คือมองในแง่หูฟังที่ทั้งฟังเพลงเพราะ และเล่นเกมได้ดีก็ได้

แต่ก็ไม่ได้มีการจูน EQ ให้เหมาะกับเสียงฝีเท้า หรือเสียงของเกมชนิดต่าง ๆ นะครับ ไม่ได้มีแอปเฉพาะทางขนาดนั้น และไม่ใช่หูฟังที่เน้นเรื่องเสียงรอบทิศทางด้วย ที่สำคัญคือมันไม่มีไมค์ในตัว ถ้าจะคุยกับเพื่อนในเกมต้องหาทางใช้ไมค์อื่น ๆ เอานะ

เทียบสั้น ๆ กับหูฟังรุ่นอื่น ๆ

ถุงผ้าของ Sennheiser HD 550
ถุงผ้าของ Sennheiser HD 550

ด้วยความที่ Sennheiser HD มีหลายรุ่นมาก เราจึงเทียบสั้น ๆ ได้ดังนี้

  • HD 505 กับ HD 550: HD 505 จะให้เสียงกลางได้มีรายละเอียดมากกว่า มีการเน้นขับย่านนี้มากกว่า แต่ให้เบสน้อยกว่า HD 550 ที่ให้เสียงสมดุล มีเบสนุ่มนวลกว่า
  • HD 560s กับ HD 550: HD 560s ให้ดีเทลเสียงกลางได้ละเอียด สำหรับการฟังในเชิงตัดสินเพลงเพลงได้มากกว่า HD 550 ที่เน้นฟังสบาย ๆ มีเบสนุ่ม ๆ ให้ฟังได้ยาวนาน
  • HD 600 กับ HD 550: HD 600 เป็นหูฟังที่วางลำดับอยู่ในซีรีส์รองเรือธง ให้เสียงในเชิง reference สำหรับคนที่ต้องการเสียงระดับมืออาชีพ ทำงานในระดับมืออาชีพมากกว่าฟังเพื่อความสบายเหมือน HD 550
  • HD 800S, HD 820 กับ HD 550: HD 800S และ HD 820 เป็นหูฟังแบบครอบหูคลาสเรือธงของค่าย มีค่าตัวต่างจาก HD 550 มากกว่า 5 เท่า ดีเทลของเสียงที่ซีรีส์ 800 ให้จึงจัดเต็มกว่า เหมาะกับใครที่ต้องการฟังแบบเก็บทุกเม็ด ซึ่ง HD 800S จะเป็นหูฟังแบบ Open Back ให้มิติเสียงกว้างสุด แต่เบสจะไม่ชัดเจนเท่ากับ HD 820 ที่เป็นแบบ Closed back ที่ตัดเสียงภายนอกได้ดีกว่าด้วย แต่แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้หนักกว่า ทำให้ใส่นาน ๆ แล้วล้ากว่า HD 550 นอกจากนี้ยังมีความต้านทานสูงกว่า ซึ่งอาจทำให้ใช้กับเครื่องเล่นพกพารุ่นเล็ก ๆ ไม่ไหว

สรุปหูฟังรุ่นนี้เหมาะกับใคร

Sennheiser HD 550
Sennheiser HD 550

Sennheiser HD 550 เปิดตัวในไทยด้วยราคา 10,499 บาท ก็ถือเป็นราคาที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มเข้าสู่หูฟังระดับ Hi-Fi นะครับ ด้วยลักษณะเสียงที่เน้นขับให้เพลงฟังเพราะ ฟังง่าย ให้รายละเอียดดี ก็น่าจะสร้างความแตกต่างจากหูฟังที่เคยใช้กันมาได้ไม่ยากเลย

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท

8.7 / 10คะแนนรวม
ดีไซน์ 8.5
คุณภาพเสียง 8.7
ความคุ้มค่า 9.0

Sennheiser HD 550

The Summary

สานต่อตำนานหูฟังตระกูล Sennheiser HD ด้วยการปรับแนวเสียงให้ถูกใจคนทั่วไปมากขึ้น เสียงมีรายละเอียด พร้อมเบสที่นุ่มละมุน ในราคา 10,490 บาท

Pros
  • ราคาไม่แพงสำหรับหูฟังที่ให้เสียงได้ระดับนี้
  • ให้เสียงเป็นธรรมชาติ เบสละมุนกำลังฟังสนุก เสียงกลางชัดเจน
  • น้ำหนักเบา สามารถใส่ได้นาน
  • ให้สายยาว 1.8 เมตร พร้อมแจ็คแปลงจากหัว 3.5 mm เป็น 6.35 mm
  • ความต้านทาน 150 Ω รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ส่วนใหญ่โดยไม่ต้องมีแอมป์
Cons
  • มีเพียงถุงผ้ามาให้สำหรับการพกพา กันรอยขีดข่วนได้อย่างเดียว
  • ไม่มีไมค์ ทั้งที่ตัวหูฟังและสาย
  • ต้องเข้าใจว่าหูฟังแบบ Open Back คือกันเสียงรอบข้างไม่ได้เลย

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...