รีวิว Gadhouse Wesley หูฟังแปะหู เสียบสาย ทรงเรโทร ใช้กับสมาร์ตโฟนได้ ของดีคนไทยทำถึง

ท่ามกลางความนิยมของหูฟังแบบไร้สาย หูฟังแบบเสียบสายก็มีที่ทางของตัวเอง และหลัง ๆ กลับได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยความทนทานที่ไม่มีแบตเตอรี่ให้เสื่อมเหมือนหูฟังไร้สาย และพร้อมใช้งานแค่เสียบสาย ซึ่ง Gadhouse Wesley หูฟังรุ่นแรกจากแบรนด์เครื่องเสียงคนไทยก็ออกมาตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม คุณภาพเสียง และการรองรับการใช้งานในยุคปัจจุบัน ซึ่งเราจะรีวิวละเอียดในครั้งนี้

ดีไซน์ของ Gadhouse Wesley

Gadhouse Wesley
Gadhouse Wesley

หูฟังตัวนี้เป็นแบบ Supra-Aural หรือหูฟังแบบแปะหู โดยงานออกแบบของ Wesley ให้กลิ่นอายหูฟังในยุค 80s เห็นแล้วคิดถึงหูฟังก้านเหล็กของ Sony Walkman จุดเริ่มต้นที่คนทั่วโลกได้พกพาเพลงออกไปฟังนอกบ้าน ประกอบกับโทนสีของ Wesley ที่เป็นดำ-เทาโทนอุ่น ก็รู้สึกคิดถึงอดีตแบบอุ่น ๆ ในใจ

โครงสร้างของหูฟังตัวนี้ออกแบบมาอย่างแข็งแรงด้วยสแตนเลสสตีล ผสมกับอะลูมิเนียมอัลลอยบริเวณโลโก้ Gadhouse ของหูฟัง แต่ก็ยังเสริมความนุ่มด้วยฟองน้ำหูฟังขนาดใหญ่ และบริเวณที่คาดศีรษะก็ยังมีหนัง PU นุ่ม ๆ แรงบีบจากก้านหูฟังก็กำลังดี ทำให้เวลาสวมใส่ไม่รู้สึกอึดอัด ฟังต่อเนื่องได้ยาวนาน ด้วยน้ำหนักแค่ 105 กรัม

ส่วนที่เรากังวลในช่วงแรกคือตัวสาย ที่รู้สึกว่าสายมันเล็กและบาง แต่หลังจากที่ใช้มาเรื่อย ๆ 2 เดือนก็ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ โดยที่สายนี้มีไมโครโฟนและตัวควบคุมแบบ 1 ปุ่มที่สามารถกดเพื่อเล่นเพลง-หยุดเพลง รับสาย-จบสายได้

เสียงของ Gadhouse Wesley

เราประทับใจเสียงของ Gadhouse Wesley นะครับ คือตอนแรกด้วยดีไซน์แล้วเราก็คิดว่าจะไม่เน้นรายละเอียดเสียงมากตามสไตล์หูฟังเรโทร แต่เอาเข้าจริงเสียงของ Wesley เป็นเสียงที่ค่อนข้าง Balance ให้รายละเอียดเสียงได้ดี แยกเสียงของเครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้ เสียงมีติดโทนอุ่นนิด ๆ มีความนัว ๆ ให้ความรู้สึกน่าคิดถึงครับ

  • เสียงต่ำ: ให้เบสกำลังสวย ลูกกำลังเพราะ ฟังสบายโดยไม่ไปกวนเสียงกลาง
  • เสียงกลาง: เสียงร้องเด่นขึ้นมาจากเสียงเบสได้ ให้เสียงสวยหวาน
  • เสียงสูง: ให้รายละเอียดเสียงดี เสียงแหลมมีรายละเอียดพอสมควร เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าแผดกำลังสวย ไม่แสบหูเกิน ไม่หุบจนเสียงไม่ทะยาน
หัวแปลงจาก USB-C เป็น 3.5 mm ที่แถมมาในกล่อง
หัวแปลงจาก USB-C เป็น 3.5 mm ที่แถมมาในกล่อง

เมื่อมาดูสเปกเสียง ไดรเวอร์ขนาด 40 mm ตอบสนองความถี่ 20 Hz – 20,000 Hz ก็ถือว่าสมแล้วครับ ให้เสียงชัดเจนในทุกย่าน แต่ก็ไม่ได้รองรับถึงย่าน Hi-Res แล้วในกล่องมีหัวแปลงจาก USB-C เป็น 3.5 mm มาให้ด้วย ก็ถือว่าครบจบสำหรับการฟังเพลงกับสมาร์ตโฟนในปัจจุบันที่ไม่มีช่อง 3.5 mm แล้ว ส่วนใครใช้กับเครื่องเล่นเพลงใหญ่ ๆ ก็ยังมีแจ็คแปลง 3.5 mm เป็นหัว 6.35 mm ให้ด้วย

เทียบกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ

Aiaiai Tracks

Aiaiai Tracks และ Gadhouse Wesley
Aiaiai Tracks และ Gadhouse Wesley

ก่อนหน้าที่เราจะรีวิว Gadhouse Wesley เราใช้ Aiaiai Tracks ในชีวิตประจำวันอยู่เรื่อย ๆ ฐานะตัวแทนของหูฟังแบบ Supra-Aural ซึ่งทาง Gadhouse บอกเราว่า Wesley จูนเสียงโดยมี Tracks เป็นต้นแบบแล้วทำให้ดีกว่า ซึ่งก็จริงตามนั้นครับ

ระดับเสียงของ Tracks นั้นดังกว่า Wesley พอสมควรเลยแม้ว่าทั้งคู่จะมีไดรเวอร์ขนาด 40 mm และความต้านทาน 32 Ω เท่ากัน โดยเสียงของ Wesley จะเบากว่าประมาณ 2 ระดับของการปรับเสียงใน Macbook Air

เสียงของ Tracks เป็นเสียงที่เน้นเบสชัดเจนครับ เบสลูกใหญ่จนไปท่วมเสียงกลางอยู่บ้าง ทำให้รายละเอียดเสียงไม่ชัดเท่า Wesley เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าก็หุบกว่า ความแผดไปไม่สวยเท่า Wesley ซึ่งก็เป็นเสียงที่เหมาะสำหรับการฟังนอกสถานที่ เพราะหูฟังในลักษณะนี้จะไม่สามารถบล็อกเสียงได้มากนัก การที่ได้ยินเสียงเบสชัดแม้อยู่ในบรรยากาศ

ส่วนเรื่องการสวมใส่ Tracks มีฟองน้ำที่บางกว่า Wesley มาก แถมยังไม่สามารถเปลี่ยนแป้นฟองน้ำได้ง่ายนักด้วย ทำให้ความนุ่มนวลเวลาใส่น้อยกว่า และไม่สามารถปรับตำแหน่งแป้นหูฟังได้อิสระเท่า Wesley แต่ก็มีลูกเล่นที่สามารถเปลี่ยนตัวยึดแป้นหูฟังเป็นสีอื่นได้ ซึ่งในกล่องมีก็มีตัวยึดนี้ให้เลือกเปลี่ยนได้หลายสีเลย

โดย Aiaiai Tracks ตั้งราคาขายในไทยไว้ 2,490 บาท มีเฉพาะรุ่น 3.5 mm อย่างเดียว ไม่มีหัวแปลงเป็น USB-C ติดมาให้ ส่วนรุ่นที่เป็นหัว USB-C ไม่ได้จำหน่ายในไทยครับ

Koss Porta Pro

Koss Porta Pro และ Gadhouse Wesley
Koss Porta Pro และ Gadhouse Wesley

หูฟังรุ่นนี้เป็นปู่ของวงการนี้ เพราะตั้งแต่ออกมาเมื่อปี 1984 ก็ไม่ได้ปรับเรื่องเสียงหรือไดรเวอร์ครั้งใหญ่อีกเลย จะมีเพิ่มรุ่นย่อยเป็นไร้สาย หรือเพิ่มสายใหม่ ๆ มากกว่า

เสียงของ Porta Pro นั้นเบากว่า Wesley นิดหน่อยด้วยความต้านทาน 60 Ω เสียงเบากว่าประมาณ 1 ขั้นของ Macbook Air ด้านลักษณะเสียงคล้ายกับ Wesley ต่างกันในเรื่องรายละเอียดเสียงที่ Porta Pro ไม่ได้คลี่จนชัดเจนเท่ากับที่ Wesley ทำได้ เสียงเลยทึบกว่า แต่ก็ได้อารมณ์หูฟังย้อนยุคไปอีกแบบ

ดีไซน์ของ Porta Pro นั้นแปลกที่สุดในหูฟัง 3 รุ่น ด้วยตัวแป้นหูฟังออกแบบเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ค่อยมีหูฟังทรงนี้ให้เห็นเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังสามารถหดก้านให้สั้นลงครึ่งหนึ่ง แล้วพับตัวหูฟังได้อีกทบหนึ่ง ซึ่งในบางรุ่นย่อยจะมีเคสแข็งกลม ๆ มาให้ทำให้สามารถเก็บเป็นก้อนเท่าโดนัทได้ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนโฟมหูฟังได้เองไม่ยาก ทำให้สามารถซื้อโฟมสี ๆ มาแต่งลุคของหูฟังให้ดูแปลกตาได้อีกมาก

โดย Koss Porta Pro ราคาเริ่มต้นในไทยอยู่ราว ๆ 2,000 บาทครับ ส่วนตัวที่เราเทสต์เป็นสีเบจพร้อมไมค์ในสาย ราคาไทยอยู่ที่ 2,790 บาท

คุณภาพไมค์

Aiaiai Tracks, Koss Porta Pro และ Gadhouse Wesley
Aiaiai Tracks, Koss Porta Pro และ Gadhouse Wesley

หูฟังทั้ง 3 รุ่นนั้นมีไมค์อยู่ที่สายด้วย เราจึงบันทึกเสียงจากทั้ง Gadhouse Wesley, Aiaiai Tracks และ Koss Porta Pro มาให้ฟังเทียบกันครับ

Gadhouse Wesley
Aiaiai Tracks
Koss Porta Pro

สรุป Gadhouse Wesley หูฟังที่ดีเกินตัว

สรุปแล้วเราชอบเสียงของ Gadhouse Wesley ที่สามารถจูนเสียงมาให้เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน แต่ยังแฝงกลิ่นอายเรโทรเอาไว้ด้วย ซึ่งราคาเปิดตัวของหูฟังตัวนี้อยู่ที่ 2,350 บาท แล้วในกล่องมีทั้งหัวแปลง 3.5 mm เป็น USB-C และหัวแปลง 3.5 mm เป็นแจ็ค 6.35 mm ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มราคาไม่น้อย เพราะสามารถใช้ได้กับสมาร์ตโฟนยุคใหม่ได้ทันที หรือจะใช้กับอุปกรณ์เก่า ๆ ก็ได้ เพียงแต่ว่าในกล่องไม่มีถุงใส่หูฟังสำหรับพกพามาด้วยเท่านั้นเอง

งานนี้คนไทยทำถึงครับ

ของภายในกล่อง Gadhouse Wesley
ของภายในกล่อง Gadhouse Wesley

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท

9.3 / 10คะแนนรวม
ดีไซน์ 9.0
คุณภาพเสียง 9.0
ความคุ้มค่า 9.8

Gadhouse Wesley

หูฟังผลงานแบรนด์ไทย คุณภาพสู้ระดับโลกได้สบาย

Gadhouse Wesley หูฟังรุ่นนี้ใส่ใจรายละเอียดทั้งดีไซน์ที่ดูเรโทรแต่แข็งแรง คุณภาพเสียงที่จูนมาเป็นอย่างดีจนเป็นผู้นำในกลุ่มหูฟัง Supra-Aural ได้สบาย ๆ และยังใส่ใจแถมหัวแปลง USB-C เป็น 3.5 mm มาให้ ทำให้ใช้กับสมาร์ตโฟนปัจจุบันได้ทันที ซึ่งด้วยความที่มีไมค์ในตัวก็ทำให้ใช้ประชุมออนไลน์ได้ด้วย ทั้งหมดนี้ในราคา 2,350 บาท
Pros
  • ให้เสียงสมดุล เบสกำลังดีฟังสนุก เสียงร้องชัดเจนไม่โดนเบสกลบ เสียงแหลมได้รายละเอียดพอสมควร
  • ใส่สบาย แป้นหูฟังนุ่ม น้ำหนักไม่กดทับมากเกินไป
  • มีไมค์ในตัว สามารถใช้ประชุมงานหรือคุยสายได้
  • มีหัวแปลงเป็น USB-C มาให้ในกล่อง ใช้กับสมาร์ตโฟนได้เลย
Cons
  • ไม่มีถุงใส่หูฟังแถมมาด้วย
  • เป็นหูฟังสายแบบดั้งเดิม ไม่มีระบบตัดเสียง ANC

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...