ทำไมสายชาร์จ USB-C ของแอปเปิ้ลถึงมี Pin ไม่ครบ และข้อเท็จจริงของการชาร์จเร็วบน Android ที่คนไม่ค่อยพูดถึง

THE SUMMARY:

จากประเด็นที่มีคนแชร์ภาพสายชาร์จ USB-C ของ Apple เทียบกับสาย USB-C ทั่วไปว่ามีจำนวน Pin หรือลิ้นโลหะในพอร์ตไม่ครบ 24 พินเหมือนสาย USB-C ทั่วไป สู่ประเด็นเรื่องการกั้กของแอปเปิ้ล บทความนี้เราจะอธิบายว่าทำไมแอปเปิ้ลถึงตัดสินใจแบบนี้ และเล่าข้อเท็จจริงในโลกของ Android ที่ว่าชาร์จเร็ว มีอะไรบ้างที่ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงกัน

ทำไมสายชาร์จ USB-C ของแอปเปิ้ลถึงมีพินไม่ครบ

ภาพพินของสาย Apple 240W USB-C ยาว 2 เมตร (ที่มา: Chargerlab)

เห็นพอร์ต USB-C เล็กแค่นั้น แต่ภายในออกแบบมารองรับการใช้งานหลายหลากมากด้วยขั้วเชื่อมต่อภายใน 24 พิน แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้งานครบทั้ง 24 พินเพื่อให้สายนั้นทำงานได้ ซึ่งสายนั้นจะมีกี่พิน ขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าให้น้ำหนักกับอะไร

อย่างสาย USB-C ของแอปเปิลที่มาในกล่อง iPhone มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าต้องการให้สายชาร์จไฟเป็นหลัก การส่งข้อมูลเป็นเรื่องรอง รองรับแค่ USB 2.0 ความเร็ว 480 Mbps ก็พอ จึงดีไซน์ให้มีพินไม่ครบเพื่อให้สายชาร์จมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกง่าย เพราะไม่จำเป็นต้องใส่สายไฟย่อยภายในจนครบทุกเส้น และแน่นอนว่าต้นทุนการผลิตสายก็ลดลง

หน้าที่ของ 24 พินใน USB-C

พินทั้งหมดของ USB-C (ที่มา: Wikipedia)

หน้าที่ของแต่ละพิน USB-C

  • VBUS (พิน 4 ตำแหน่ง) ทำหน้าที่จ่ายไฟ (ไฟบวก) ระหว่างอุปกรณ์
  • GND (พิน 4 ตำแหน่ง) เป็นกราวด์หรือขั้วลบของวงจรจ่ายไฟ
  • D+ / D− (USB2.0 Data, 2 ตำแหน่ง) ส่งข้อมูลความเร็วสูงสุด 480 Mbps ตามมาตรฐาน USB 2.0
  • TX+ / TX− และ RX+ / RX− (USB 3.x/4.0, รวม 8 ตำแหน่ง) ส่งและรับข้อมูลความเร็วสูง (USB 3.x, 4.0, Thunderbolt, ฯลฯ)
  • CC1 / CC2 (Configuration Channel, 2 ตำแหน่ง) ตรวจจับการเสียบสาย ทิศทางเสียบ ตรวจสอบกำลังไฟ และใช้สื่อสารสำหรับฟีเจอร์ Power Delivery (PD)
  • VCONN (ผ่าน CC1 หรือ CC2) ใช้จ่ายไฟเลี้ยงสายเคเบิลที่มีชิป eMarker ในสายพรีเมียม เพื่อสื่อสารชนิดของสาย และกำลังไฟที่สายรองรับ
  • SBU1 / SBU2 (Sideband Use, 2 ตำแหน่ง) ใช้สำหรับฟังก์ชันเสริม เช่น สัญญาณเสียง/วิดีโอพิเศษ (DisplayPort Alt Mode)

โดยพอร์ต USB-C ที่หัวชาร์จ กับพอร์ต USB-C ที่ปลายทางบนอุปกรณ์ต่าง ๆ พินก็จะทำหน้าที่ต่างกันอยู่นิดหน่อย โดยที่หัวชาร์จจะมีพิน VCONN เพื่อสื่อสารกับชิป eMarker ส่วนที่อุปกรณ์ปลายทางจะไม่จำเป็นต้องมี

สาย USB-C มากมายในร้านค้า ที่ผู้ซื้อต้องอ่านให้ละเอียดว่ามีสเปกตามที่ต้องการหรือไม่
สาย USB-C มากมายในร้านค้า ที่ผู้ซื้อต้องอ่านให้ละเอียดว่ามีสเปกตามที่ต้องการหรือไม่

ความซับซ้อนของ USB-C ที่มีรายละเอียดมากมาย ทำให้สาย USB-C ที่แม้หน้าตาเหมือนกัน แต่ก็มีคุณสมบัติต่างกัน การซื้อสายมาใช้จึงต้องพิจารณารายละเอียดเหล่านี้ให้ชัดเจนก่อนซื้อ

  1. ถ้าต้องการสายที่รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูง ก็ต้องดูสายที่เขียนว่า 100 W หรือ 240 W ซึ่งสายที่รองรับกำลังไฟสูง มักไม่ใช่สายที่ส่งข้อมูลได้เร็ว
  2. ถ้าต้องการสายที่ส่งข้อมูลเร็ว ก็ต้องดูว่ารองรับความเร็วระดับ USB 3.0 ขึ้นไป ซึ่งจะมีรายละเอียดย่อยอีกว่ารองรับความเร็วระดับ USB 3.0 ที่ 5 Gbps, USB 3.2 ที่ 10 Gbps หรือ USB 4 ที่ 20 – 40 Gbps ก็ต้องดูว่าอุปกรณ์ที่ใช้ด้วยเป็นพอร์ตความเร็วระดับไหน
  3. ถ้าต้องการสายที่ต้องออกจอได้ ให้ดูว่าเป็น USB-C 3.0 ขึ้นไป แต่ก็ต้องเทสต์ซ้ำอีกครั้งถ้าไม่ได้ระบุชัดว่าส่งสัญญาณภาพได้
  4. สาย USB-C กับสาย Thunderbolt 3/4/5 หน้าตาเหมือนกัน แต่เสียบสาย USB-C ที่พอร์ต Thunderbolt จะใช้ความเร็วสูงสุดไม่ได้ ในทางกลับกันเราสามารถใช้สาย Thunderbolt เสียบพอร์ต USB-C เพื่อส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุดที่อุปกรณ์รองรับ เพราะสาย Thunderbolt มีสเปกสูงกว่าสาย USB-C
    • แต่เป็นทางเลือกที่ไม่คุ้ม เพราะสาย Thunderbolt มักราคาสูงกว่าสาย USB-C ความเร็วสูง

ข้อเท็จจริงของประเด็นเรื่องสาย USB-C ในอินเทอร์เน็ต

ประเด็น 1: iPhone กั้ก แถมแค่สายความเร็ว USB 2.0

สาย USB-C ของแอปเปิ้ลที่มาในกล่อง iPhone
สาย USB-C ของแอปเปิ้ลที่มาในกล่อง iPhone

ข้อเท็จจริง: สมาร์ตโฟนที่แถมสายชาร์จมาในกล่อง เรายังไม่เจอสมาร์ตโฟนรุ่นไหนที่แถมสาย USB-C 3.0 มาให้ แม้ว่าจะเป็น Android รุ่นเรือธง คาดว่าผู้ผลิตมีการเก็บข้อมูลว่าคนส่วนใหญ่ใช้สายที่มาในกล่องเพื่อชาร์จ ไม่ได้ใช้โอนข้อมูล การแถมสาย USB-C 3.0 จึงเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้

ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ความเร็วระดับ USB 3.0 จึงจำเป็นต้องซื้อสาย USB-C อีกชุดที่เร็วกว่า และหนากว่าเส้นที่แถมในกล่อง

ประเด็น 2: ซื้อสาย Thunderbolt มาโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ได้เร็วกว่า

ราคาสาย Thunderbolt 5 ของแอปเปิล ที่เกินสเปกไปหากจะเอามาใช้โอนข้อมูลใน iPhone
ราคาสาย Thunderbolt 5 ของแอปเปิล ที่เกินสเปกไปหากจะเอามาใช้โอนข้อมูลใน iPhone

ข้อเท็จจริง: การย้ายข้อมูลระหว่าง iPhone เครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ด้วยสายนั้นเร็วกว่าไร้สายจริง และการใช้สาย Thunderbolt ก็ทำให้โอนข้อมูลได้เร็วกว่าสายที่แถมในกล่องจริง แต่ก็เป็นการลงทุนที่เกินสเปกไป เพราะ iPhone Pro รองรับแค่ USB 3 อย่าง iPhone 16 Pro รองรับ USB 3.2 Gen 2 ความเร็ว 10 Gbps จึงใช้สาย USB-C ความเร็ว 10 Gbps ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อสาย Thunderbolt ราคาหลายพันมาโอนข้อมูล

และถ้าโอนข้อมูลระหว่าง iPhone รุ่นธรรมดาที่ไม่ใช่ iPhone Pro ก็ใช้สายแถมในกล่องก็พอแล้ว เพราะรองรับความเร็วแค่ USB 2.0

ประเด็น 3: สาย USB-C ก็เหมือน ๆ กัน ซื้ออะไรมาใช้ก็ได้

ข้อเท็จจริง: เรื่องนี้เราอธิบายไปแล้วในย่อหน้าบน สาย USB-C จำนวนมากที่ขายในตลาด ก็ไม่รองรับ USB 3.0 เพราะต้นทุนสูงกว่าสาย USB 2.0 เห็นสายรองรับ 240 W ส่วนใหญ่ก็รองรับแค่ 2.0 ยกเว้นที่เขียนไว้หน้ากล่องชัดเจนว่า USB 3.0

ประเด็น 4: Android ชาร์จเร็วกว่า iPhone

ข้อเท็จจริง: Android ให้กำลังในการชาร์จสูงกว่า iPhone จริง แต่การชาร์จเร็วของ Android โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่มีเทคโนโลยีการชาร์จของตัวเอง ส่วนใหญ่มีเงื่อนไขว่าจำเป็นต้องชาร์จด้วยหัวชาร์จของค่าย เช่นเทคโนโลยี OPPO SuperVOOC, Vivo FlashCharge, Xiaomi HyperCharge ถ้าไปใช้หัวชาร์จทั่วไปที่รองรับมาตรฐานกลางอย่าง USB-PD ความเร็วในการชาร์จจะตกลงมาก จนได้ความเร็วไม่ต่างจาก iPhone มากนัก

หัวชาร์จ OPPO 100W Mini SUPERVOOC ที่เป็นแบบ USB-C
หัวชาร์จ OPPO 100W Mini SUPERVOOC ที่เป็นแบบ USB-C

ผู้ใช้ Android ที่ใช้มาตรฐานการชาร์จเร็วเฉพาะตัว และอยากชาร์จเร็วตลอดเวลา จึงต้องพกหัวชาร์จเทคโนโลยีของตัวเองติดตัวไปด้วย และยังมีความซับซ้อนในเทคโนโลยีชาร์จเร็วเหล่านี้ลึกแตกแขนงจาก USB-PD ลงไปอีก เช่น OPPO SuperVOOC ที่ผ่านมาจะใช้หัวชาร์จเป็น USB-A แล้วใช้สาย USB-A to USB-C เพื่อชาร์จเร็วเข้าสมาร์ตโฟน แต่ก็มีหัวชาร์จรุ่นใหม่ของ OPPO ที่เป็นหัว USB-C เช่นกัน ซึ่งจะลดภาระการพกสาย USB-A ของผู้ใช้ไปได้

แต่ก็ใช่ว่าสมาร์ตโฟนจีนทุกตัวจะชาร์จ USB-PD ช้ากว่าเทคโนโลยีของตัวเอง เพราะล่าสุด Xiaomi 17 รองรับ USB-PD PPS ที่กำลังชาร์จสูงสุด 100W แล้ว ทำให้สะดวกในการหาหัวชาร์จในท้องตลาดมากขึ้น

Xiaomi 17 รองรับมาตรฐาน USB-PD ในการชาร์จเร็ว
Xiaomi 17 รองรับมาตรฐาน USB-PD ในการชาร์จเร็ว

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...