ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อนมาก ๆ สภาพอากาศที่ร้อนจัดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสมาร์ตโฟนของเรา ซึ่งปล่อยความร้อนเหมือนคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลา และอาจร้อนจนจอหรี่แสงมองไม่เห็น หนัก ๆ หน่อยก็เครื่องดับ หรือแบตเตอรี่เสียหายได้ แต่ปัญหานี้ สามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยวิธีเบื้องต้นด้วย 6 อย่างนี้ได้เลย !
การที่สมาร์ตโฟนอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นนั้น สาเหตุหลัก ๆ มักจะเกิดจากการใช้งานสมาร์ตโฟนกลางแดดจัด เพราะหน้าจอต้องเร่งความสว่างสูงสุด เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งจะใช้พลังงานมากขึ้น และสร้างความร้อนสะสม แล้วแสงแดดยังแผ่รังสีความร้อนมาที่ตัวเครื่องโดยตรงอีก ถ้าจำเป็นต้องใช้มือถือกลางแดดเป็นเวลานาน ควรหาที่ร่มเพื่อป้องกันทั้งตัวเรา และสมาร์ตโฟนด้วยเลย นอกจากนี้ การทิ้งสมาร์ตโฟนไว้ในรถที่จอดกลางแดด ก็ต้องหลีกเลี่ยงเหมือนกัน เพราะอุณหภูมิภายในรถที่ดับเครื่องอยู่ ก็จะพุ่งสูงขึ้นได้ง่าย จากการที่อากาศไม่สามารถระบายออกไปได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องร้อนจนเป็นอันตรายต่อสมาร์ตโฟนเราได้นั่นเอง
เรื่องของความร้อนที่ระบายได้ยากก็ไม่ได้มีแค่จากภายนอกอย่างเดียว แต่ภายในเครื่องก็ด้วยเหมือนกัน เพราะว่าเวลาสมาร์ตโฟนจะชาร์จแบตเตอรี่ จะเกิดกระบวนการแปลงพลังงานไฟฟ้าขึ้น ทำให้เกิดความร้อน ซึ่งตัวเครื่องก็ถูกออกแบบมาให้ระบายความร้อนออกสู่ภายนอกอยู่แล้ว แต่การใส่เคส โดยเฉพาะเคสที่มีความหนา จะเข้ามาขวางการระบายความร้อนออกมานั่นเอง ดังนั้น ถ้าสังเกตว่าเครื่องร้อนผิดปกติขณะเสียบสายชาร์จ การถอดเคสออกก่อนจะช่วยให้เครื่องระบายความร้อนได้ดีกว่า
นอกจากนั้น ตอนชาร์จแบตเตอรี่ ก็ควรจะต้องใช้อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานด้วย เพราะของลอกเลียนแบบ หรือไม่ได้มาตรฐานมักจะไม่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้านความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับควบคุมการจ่ายไฟ และป้องกันความร้อนสูงเกินไป เพราะงั้น อแดปเตอร์ปลอมก็อาจทำให้เครื่องเกิดความร้อนเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน เพราะงั้น การใช้อแดปเตอร์ที่ผ่านมาตรฐาน หรือมีแบรนด์ นอกจากจะป้องกันความร้อนได้แล้ว ยังป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย
ชิปเซตของสมาร์ตโฟน จะทำงานหนักขึ้นเมื่อมีการใช้งานแอปพลิเคชันที่กินทรัพยากรสูง เช่น การเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ หรือการตัดต่อวิดีโอ ซึ่งสามารถส่งความร้อนจากภายในตัวเครื่องได้มากกว่าปกติ ซึ่งมักทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ทำให้เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องเสียบสายชาร์จไปพร้อมกันด้วย แต่การทำเช่นนี้ จะเป็นการเพิ่มความร้อนซ้ำซ้อน ทั้งจากชิปเซตบนเมนบอร์ด และจากการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้เครื่องร้อนจัดได้ นอกจากเครื่องจะเกิดความร้อนสูงมากแล้ว ยังเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนเราเสื่อมไวขึ้นอีกด้วย
รู้หรือไม่ว่า แอปฯ กล้องถ่ายภาพ เป็นแอปฯที่ใช้ทรัพยากรในเครื่องเรามากที่สุดแอปฯ หนึ่งเลย ดังนั้น เวลาเราถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนของเรานาน ๆ เข้า ทำให้เครื่องทำงานหนัก ไม่แพ้การใช้สมาร์ตโฟนของเราเล่นเกม หรือตัดต่อวิดีโอเลย ดังนั้น ถ้าเกิดว่าเราใช้งานนาน ๆ เข้า ตัวเครื่องก็จะเกิดความร้อนสูงได้ ไม่ว่าจะถ่ายอยู่ หรือไม่ได้ถ่ายก็ตาม ดังนั้น การออกจากแอปฯกล้องเมื่อเราไม่ได้ใช้งาน จึงเป็นทางเลือกที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อให้ตัวเครื่องของเราไม่ร้อนจนเกินไปนั่นเอง
แม้ว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์สมาร์ตโฟน อาจจะฟังดูไม่เกี่ยวกับเรื่องของความร้อนภายในเครื่อง แต่ว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์สมาร์ตโฟนในบางครั้ง อาจจะทำขึ้นเพื่อมาแก้ปัญหาเครื่องร้อนที่อาจเกิดจากบักในซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันบางตัว แต่ต้องอธิบายเพิ่มเติมก่อนว่า เป็นเรื่องปกติที่เครื่องจะอุ่นขึ้นเล็กน้อยในระหว่าง และหลังการอัปเดตซอฟต์แวร์ เพราะว่าภายในตัวเครื่อง กำลังจัดระเบียบข้อมูลเบื้องหลังอยู่นั่นเอง
ถ้าเกิดว่าปัญหามือถือของเราเกิดเครื่องร้อนขึ้นบ่อย แม้จะไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมกาใช้งานทั้งหมดที่บอกมา เป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจมาจากแบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนเรา ที่ทำงานผิดปกติ หรือเริ่มจะเสื่อมแล้ว เลยอยากให้ลองตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ก่อน โดยทั้ง Android และ iPhone มีวิธีในการดูสุขภาพแบตเตอรี่ที่ต่างกัน ตามนี้เลย
ซึ่งถ้าพบว่าความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ลดลงจนต่ำกว่า 80% อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้วก็ได้ และหากพบว่าตัวเครื่องมีอาการบวม หรือมีรอยแตก ควรรีบปิดเครื่อง และติดต่อศูนย์บริการเพื่อส่งซ่อมทันทีเพื่อความปลอดภัยดีกว่า แ