Apple เผยภาพยนตร์สั้น “Designed For Every Student” เน้นย้ำการเข้าถึงที่เท่าเทียม ในวันคนพิการสากล (IDPD)

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Apple เป็นแบรนด์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้คนพิการใช้เพื่อให้ชีวิตประจำวันมีคุณภาพดีขึ้น ง่ายขึ้นมานาน และในวันคนพิการสากล วันที่ 3 ธ.ค. ปีนี้ แอปเปิลได้นำเสนอภาพยนตร์สั้น “Designed For Every Student” เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้พิการสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลช่วยเหลือการใช้ชีวิตประจำวันได้ยังไงบ้าง และการรณรงค์ให้การเข้าถึง (accessibility) เป็นสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

Designed For Every Student

ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้กำกับโดย Kim Gehrig ซึ่งเคยกำกับภาพยนตร์สั้นด้านการเข้าถึงที่ได้รับรางวัล Emmy Award ของ Apple ในปี 2022 เรื่อง The Greatest มาก่อน

ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่านักเรียนผู้พิการทั่วโลกใช้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลและคุณสมบัติการเข้าถึงในชีวิตประจำวันอย่างไร เพราะการศึกษาไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องวิชาการเท่านั้น การเข้าถึงชีวิตนอกห้องเรียนสำหรับนักเรียนพิการจะต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางรอบมหาวิทยาลัย การเรียนรู้ทักษะ การใช้เวลากับเพื่อนฝูง และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีนักเรียนที่บกพร่องทางการได้ยินและนักเรียนผู้พิการหลากหลายกลุ่มจากทั่วโลกเข้าร่วมแสดง

คุณสมบัติเด่นด้านการเข้าถึงที่ปรากฏในภาพยนตร์

ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Design for Every Student” ได้เน้นย้ำถึงคุณสมบัติใหม่ ๆ ด้านการเข้าถึงที่ช่วยยกระดับการเรียนรู้และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้นักเรียนผู้พิการได้ศึกษา เข้าสังคม และประสบความสำเร็จ

Magnifier บน Mac

ในภาพยนตร์ Cassidy ซึ่งมีความบกพร่องหลายอย่าง ใช้ Magnifier บน Mac เพื่อดูไวท์บอร์ดในห้องบรรยายได้อย่างง่ายดาย โดย Magnifier ทำงานเหมือนแว่นขยายดิจิทัล โดยใช้กล้องในการขยายขนาดวัตถุทางกายภาพใด ๆ ที่คุณเล็งไป เช่น เมนูหรือป้าย

ปัจจุบัน Magnifier สามารถใช้ได้บน Mac โดยเชื่อมต่อกับกล้องที่แนบมาหรือกล้อง Continuity Camera เพื่อซูมดูสภาพแวดล้อมได้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งมุมมอง (Customized views) เช่น ความสว่าง คอนทราสต์ ฟิลเตอร์สี และแม้แต่มุมมอง เพื่อให้อ่านข้อความและดูภาพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับ Desk View บน Mac เพื่อให้มีเครื่องมืออ่านเอกสารในตัว

Braille Access และ Braille Screen Input

Bavia นักศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ Stanford ใช้ Braille Access ร่วมกับจอแสดงผลอักษรเบรลล์ที่เชื่อมต่อกับ iPad เพื่อนำทาง อ่าน และพิมพ์ โดย Braille Access เปลี่ยน iPad หรืออุปกรณ์ Apple อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับจอแสดงผลอักษรเบรลล์ให้เป็นเครื่องมือจดบันทึกอักษรเบรลล์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและบูรณาการเข้ากับระบบนิเวศของ Apple อย่างลึกซึ้ง

เราเห็น Bavia ใช้เครื่องคิดเลข Namath ในตัวของ Braille Access เพื่อคำนวณคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนสำหรับแล็บเคมีของเขา เขายังใช้ Braille Access เพื่อจดบันทึก เปิดแอป อ่านหนังสือ และอื่น ๆ ได้โดยตรงในอักษรเบรลล์

นอกจากนี้ Bavia ยังพิมพ์อักษรเบรลล์โดยตรงบนหน้าจอสัมผัสของ iPhone โดยใช้ Braille Screen Input ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานขณะเดินทางเมื่อไม่ได้ใช้จอแสดงผลที่เชื่อมต่อ Braille Screen Input และมันยังทำงานร่วมกับ VoiceOver โปรแกรมอ่านหน้าจอเป็นเสียงของ Apple อีกด้วย

Name Recognition และ Live Captions

Sophia ผู้เป็นนักแสดงภาษามือที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ใช้ Name Recognition บน iPhone ของเธอ คุณสมบัตินี้ใช้ความอัจฉริยะบนอุปกรณ์ (on-device intelligence) เพื่อแจ้งให้เธอทราบว่าเพื่อนกำลังเรียกชื่อเธอ โดย Name Recognition เป็นส่วนหนึ่งของ Sound Recognition ที่ใช้ AI เพื่อฟังเสียงบางอย่าง เช่น เสียงเตือนภัย กริ่งประตูอพาร์ตเมนต์ หรือเครื่องใช้ในครัว และจะแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบ

Sophia ยังใช้คุณสมบัติ Live Captions เพื่อติดตามเนื้อเพลงระหว่างการแสดงเต้น Live Captions นำเสนอการถอดเสียงแบบเรียลไทม์จากเสียงพูดในการสนทนาต่อหน้า การโทร FaceTime และเสียงจากแอป คุณสมบัตินี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาทางการได้ยิน หรือผู้ที่ชอบอ่านคำบรรยายเพื่อช่วยในการสื่อสาร

Voice Control และ Center Stage

Jaylen ใช้ Voice Control เพื่อควบคุม iPhone ด้วยเสียงของเธอ ในภาพยนตร์ เธอใช้ Voice Control เพื่อถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ด้วยกล้องหน้า Center Stage ใหม่บน iPhone Air โดย Center Stage จะขยายขอบเขตการมองเห็นโดยอัตโนมัติและสามารถหมุนเฟรมภาพได้ ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการถ่ายภาพที่น่าแชร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ยึดหรือมีปัญหาในการจัดเฟรมเมื่อถ่ายภาพ

การเข้าถึงคือหัวใจหลักของ Apple

การเข้าถึงได้ถูกฝังใน DNA ของ Apple มานานหลายทศวรรษ โดยมีการสร้างคุณสมบัติด้านการเข้าถึงเข้าสู่ผลิตภัณฑ์มาเป็นเวลา 40 ปีแล้ว นี่คือหนึ่งในค่านิยมหลักที่นำทางทุกสิ่งที่แอปเปิลทำ โดยแอปเปิลยึดมั่นในคติของชุมชนผู้พิการที่ว่า “Nothing about us without us” (ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับเราที่ทำโดยไม่มีเรา) ซึ่งหมายความว่า Apple ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกของชุมชนผู้พิการทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างคุณสมบัติการเข้าถึงสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การพูด และความบกพร่องทางสติปัญญา คุณสมบัติเหล่านี้มีให้ใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่องในผลิตภัณฑ์ Apple ทุกชนิด