
หลังจาก Sennheiser แบรนด์หูฟังจากเยอรมันเปิดตัว HDB 630 หูฟังไร้สายระดับ Audiophile ตัวแรกของแบรนด์ในต่างประเทศมาสักระยะ ในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสทดลองฟังตัวจริงในไทยในกิจกรรม Audiophile Listening Session ที่ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท สาขาสยามพารากอน ซึ่งถ้าใครที่สนใจก็สามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 นี้


หัวใจสำคัญของ HDB 630 คือไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 42 มม. ที่ผลิตในไอร์แลนด์ ให้โทนเสียงกลางที่เนียนละมุน เสียงร้องสมจริง รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายผ่านสาย USB-C หรือสาย 3.5 mm ซึ่งรองรับความละเอียดของเพลงได้สูงสุด 24-bit/96 kHz และการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 รองรับ Codec หลายตัวคือ aptX™ Adaptive™, aptX™ HD, aptX™, AAC, SBC ซึ่งหูฟังรุ่นนี้มาพร้อม Sennheiser BTD 700 ซึ่งเป็นดองเกิล USB-C ทำให้อุปกรณ์ทุกตัวไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือคอมพิวเตอร์ สามารถเชื่อมต่อสัญญาณในระดับ aptX Adaptive กับตัวหูฟังได้ ทำให้ได้เสียงดีที่สุดในแบบไร้สาย สามารถส่งเสียง Hi-Res ได้แม้ว่า iPhone จะไม่รองรับการส่งสัญญาณไร้สายลักษณะนี้

การควบคุมหูฟังตัวนี้สามารถแตะควบคุมสั่งงานที่ข้างหูฟังได้ หรือถ้าต้องการปรับแต่งขั้นสูงก็สามารถใช้แอป Sennheiser Smart Control+ ในการควบคุมอย่างละเอียดได้ ในส่วนของแบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน 60 ชั่วโมง

เสียงของ Sennheiser HDB 630 นั้นนุ่มนวล ไม่กระโตกกระตาก เบสอาจไม่เยอะเท่าหูฟังในกระแสนิยม แต่ก็เป็นเบสคุณภาพสูงที่ฟังแล้วไม่ล้าหู ฟังต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน ในส่วนของเสียงแหลมก็ไม่ได้ดันขึ้นมาเยอะ ส่วนตัวแป้นของหูฟังทำได้ดี ใส่สบาย ซึ่ง Sennheiser ให้ข้อมูลว่าเป็นหนังสังเคราะห์ Protein Leatherette จาก IDEATEX™ ของญี่ปุ่น ก็เชื่อได้ว่าสามารถใส่ยาว ๆ ได้ไม่มีปัญหา โดยรวมแล้วให้ความลื่นไหลในการฟัง
นอกจากนี้หูฟังตัวนี้ยังมี ANC ในตัวแบบที่หูฟัง Audiophile แบบมีสายจะไม่มีฟีเจอร์นี้ ก็ทำให้ฟังเพลงในสถานการณ์ที่มีเสียงรอบตัว ได้รายละเอียดมากขึ้น ซึ่ง ANC ของ HDB 630 นั้นดีกว่า Sennheiser Momentum 4 เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่สู้หูฟังตัวตึงด้าน ANC อย่าง Sony หรือ Bose ได้

ฟีเจอร์ของหูฟังตัวนี้ผ่านแอป Smart Control+ นั้นแน่นมากครับ ฟีเจอร์เด็ดคือ Parametric Equalizer ที่สามารถปรับ EQ ในรูปแบบกราฟได้ละเอียดมาก พร้อมตัวเลือกการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น Bandwidth (Q) ประเภทฟิลเตอร์ สวิตช์ A/B และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการตั้งค่าทั้งหมดจะถูกประมวลผลโดยตรงภายในระบบของหูฟัง ทำให้ปรับครั้งเดียวก็ใช้กับแหล่งเสียงต่าง ๆ ต่อได้เลย ใครที่เป็นสายปรับ EQ น่าจะถูกใจ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Cross Feed ที่สามารถผสมเสียงจาก 2 Channel เข้าด้วยกัน เช่นที่หูซ้ายก็จะมีเสียงจากช่องสัญญาณขวาเข้ามาผสมนิดหน่อย ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนฟังลำโพงสเตอริโออยู่


Sennheiser HDB 630 วางจำหน่ายแล้วในราคา 20,899 บาท โดยในชุดมาพร้อมดองเกิล Sennheiser BTD 700 มูลค่า 2,000 บาทด้วย






