หลังจากที่ Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่า AppleCare+ เตรียมปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการจากการจ่ายล่วงหน้าก้อนเดียวเป็นจ่ายรายเดือนแทน มาวันนี้ในสหรัฐอเมริกาก็ให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว อีกเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงของค่าบริการรายเดือน โดยค่าบริการจริงนั้นปรับสูงขึ้น 50 เซ็นต์ จากราคาที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ โดยครอบคลุมทั้ง AppleCare Plus แบบมาตรฐานและ AppleCare Plus พร้อมแผนประกันแบบ Theft and Loss รายเดือนสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone ของ Apple โดยค่าบริการรายเดือนของ AppleCare
ใครที่ใช้อุปกรณ์ของ Apple หลายคนเลือกจ่ายเงินซื้อ AppleCare+ เพิ่มเพื่อช่วยเพิ่มระยะเวลารับประกัน แต่ในอนาคตเราอาจจะไม่ต้องจ่ายเงินก้อน แต่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบ subscription แทน หากคุณซื้ออุปกรณ์ Apple คุณมีตัวเลือกในการเพิ่ม AppleCare+ ซึ่งเป็นแผนขยายการคุ้มครองอุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เราสามารถเลืกซื้อประกันเพิ่ม 2-3 ปีพร้อมกับตัวเครื่อง หรือซื้อผ่านออนไลน์ภายใน 60 วันหลังจากซื้อเครื่อง แต่ในอนาคตเราจะสามารถซื้อได้ผ่านออนไลน์เท่านั้น รวมถึงปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบ subscriptions แทน ทาง Mark Gurman ได้รายงานผ่าน X ว่า Apple มีแผนที่จะยกเลิกตัวเลือกการจ่ายเงินล่วงหน้า 2-3
หลังมีการแชร์ภาพแพคเกจใหม่ของ Premium Lite บนออนไลน์ ล่าสุดทาง YouTube ได้ออกมายืนยันแล้วว่ากำลังทดสอบการใช้งานอยู่ ทางตัวแทน Google ก็ได้ยืนยันกับสื่ออื่นๆ ว่ากำลังทดสอบแผน Premium Lite ในออสเตรเลีย เยอรมนี และไทย ซึ่งแพคเกจนี้จะมี “โฆษณาจำกัด” ซึ่งจะไม่ได้ขึ้นในคลิปส่วนใหญ่ แต่จะขึ้นในเนื้อหาเพลงและ Shorts รวมถึงโฆษณาที่ไม่รบกวนเมื่อคุณค้นหาและเรียกดู ก่อนหน้านี้ Premium Lite เริ่มทดสอบในยุโรปในปี 2021 แต่ใช้งานได้เพียงไม่กี่ปี โดยแพลตฟอร์มวิดีโอได้ยกเลิกตัวเลือกนี้ในเดือนตุลาคม 2023
หลังจากที่ Galaxy AI ได้กลายเป็นจุดขายหลักของอุปกรณ์ซัมซุง นอกจากนั้นในอนาคตยังเป็นโมเดลรายได้ใหม่ที่มีศักยภาพอีกด้วย ซึ่งในอนาคตบางฟีเจอร์ของ Galaxy AI ต้องจ่ายเงินถึงใช้งานได้ คาดเริ่มปลายปี 2025 ในข่าวประชาสัมพันธ์ของ Samsung สำหรับซีรีส์ Galaxy Tab S10 และ Galaxy S24 FE ที่เพิ่งเปิดตัว ด้านล่างมีเชิงอรรถระบุเกี่ยวกับอนาคตของ Galaxy AI โดยซัมซุงระบุว่า “อาจมีค่าธรรมเนียมสำหรับฟีเจอร์ AI บางฟีเจอร์ในช่วงปลายปี 2025”
นักวิเคราะห์คาด Apple อาจเก็บค่าบริการจากผู้ใช้สูงถึง 20 ดอลลาร์ เพื่อใช้งานฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงของ Apple Intelligence เพื่อกระตุ้นการเติบโตกำไรจากธุรกิจบริการ หลังจากที่ Apple ประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ระบบปัญญาประดิษฐ์ในเดือนมิถุนายน อัปเกรด Siri ให้ทำงานฉลาดขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เช่น สร้างอีเมลและรูปภาพโดยอัตโนมัติ โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยเปิดตัวในช่วงปลายปี แต่บางภูมิภาคต่างๆ เช่น จีนและยุโรป จะยังไม่ได้สามารถใช้งานในช่วงแรกได้ ส่วนใครที่อยากใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงอาจต้องสมัครใช้บริการสมัครแบบรายเดือน Neil Shah จาก
คณะกรรมาธิการยุโรปไม่ปลื้มกับโมเดลธุรกิจของ Meta ที่เก็บค่าบริการรายเดือนแลกกับการไม่มีโฆษณากวนใจบน Facebook และ Instagram Meta เริ่มให้บริการ “pay or consent” เมื่อปีที่แล้วด้วยความพยายามที่จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรปในขณะที่ยังคงรักษารูปแบบการโฆษณาไว้ เจ้าหน้าที่จาก Consumer Protection Cooperation (CPC) Network ซึ่งเป็นกลุ่มหน่วยงานระดับชาติที่บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของสหภาพยุโรป บอกว่า Meta อาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้แนวทาง “จ่ายค่าบริการหรือยินยอมให้เอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้” หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงสุดถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อปีทั่วโลก ทาง CPC
ตอนนี้หลายค่ายผู้พัฒนาสมาร์ตโฟนต่างก็ออกฟีเจอร์ AI มากขึ้น แต่ตอนนี้ Galaxy AI บนสมาร์ตโฟนของซัมซุง น่าจะเป็น AI ที่ใช้งานโดยใจมากที่สุด แต่ฟีเจอร์เหล่านี้จะเปิดให้ใช้งานฟรีถึงปี 2025 เท่านั้น หลังจากนั้นใครอยากใช้งานต่อก็อาจะต้องสมัครบริการแบบรายเดือน ในหน้าเพจประชาสัมพันธ์ของ ซัมซุง ตอกย้ำข่าวเรื่องของฟีเจอร์ Galaxy AI ที่จะเปิดให้ใช้งานฟรี 2 ปี โดย Samsung ประกาศเตรียมเปิด Galaxy Experience Space แบบ Pop up Stote
Mark Gurman รายงานว่า Apple วางแผนที่จะปรับบางฟีเจอร์ของ artificial intelligence ให้เป็นบริการแบบ Subscription ต้องสมัครสมาชิกรายเดือนถึงจะใช้งานได้ ในจดหมายข่าว Power On ทาง Gurman รายงานว่า แม้ Apple Intelligence จะเปิดให้บริการฟรีตั้งแต่เริ่ม แต่ทาง Apple เองก็มีแผนระยะยาวในการเปิดตัวบริการ “Apple Intelligence+” แบบเดียวกับ iCloud+ ซึ่งจะมีฟีเจอร์พิเศษที่ต้องจ่ายรายเดือนถึงจะใช้งานได้ การสร้างรายได้จากบริการ AI นั้นจะมาช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาและคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางได้ยื่นฟ้อง Adobeในข้อหาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิกที่ซ่อนอยู่สำหรับสมาชิกที่ต้องการยกเลิกใช้งาน บริการ Subscription นอกจากนั้นกระบวนการยกเลิกบริการยังออกแบบให้มีความซับซ้อน เพื่อป้องกันไม่ให้ยกเลิกการสมัครสมาชิกที่พวกเขาไม่ต้องการใช้งานอีกต่อไป Adobe นั้นให้บริการ Creative Cloud แบบสมัครสมาชิกรายเดือน ซึ่งมีค่าบริการที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปีถึงใช้งานได้ ซึ่งในหน้าสมัครใช้บริการนั้นบอกว่าสามารถยกเลิกการใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ใช้กลับถูกผูกมัดด้วยข้อตกลงแฝงแบบรายปี เมื่อลูกค้าสมัครทดสอบใช้งานฟรี จากนั้นจะจะเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ใช้แพคเกจแบบเริ่มต้น ซึ่งสัญญานี้จะเป็นแบบรายปี หากต้องการยกเลิกจะต้องจ่ายเงิน 50% ของสัญญาที่เหลือ ซึ่งเราจะใช้งานได้ถึงปลายเดือนที่เรากดยกเลิกเท่านั้น แม้ Adobe จะเปิดให้ผู้ใช้สมัครบริการแบบรายเดือนได้ ซึ่งค่าบริการจะสูงกว่าการจ่ายแบบรายปี ซึ่ง ความแตกต่างนั้นไม่ชัดเจนสำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งหน้าเพจศูนย์ช่วยเหลือเองก็มีความสับสนอยู่ ถ้าเราเข้าไปดูในหน้าเว็บของ Adobe เราจะเห็นว่าค่าบริการรายเดือน
Instagram ประกาศเพิ่มตัวเลือกใหม่ Subscription เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์กว่า 2 ล้านคนสามารถสร้างรายได้มากขึ้นจากระบบสมาชิก Instagram นั้นเปิดให้ครีเอเตอร์สามารถเปิดรับสมาชิกได้ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อให้เหล่าๆแฟนที่จ่ายเงินสามารถเข้าถึงคอนเทนท์สุดพิเศษ ซึ่งก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆมาอย่างต่อเนื่องทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ฟีเจอร์ล่าสุดสุดที่เพิ่มเข้ามาคือ “sticker tap insight” ซึ่งจะเปิดให้ครีเอเตอร์สามารถตรวจสอบ engagement ของสติกเกอร์ที่เราใช้ได้ Instagram ยังขยายการแสดงทีเซอร์ subscription stories บอกถึงการสมัครสมาชิก ซึ่งจะแสดงให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกเมื่อผู้สร้างโพสต์เนื้อหาสำหรับสมาชิกเท่านั้น เพื่อจูงใจให้ลงทะเบียนสมัครสมาชิกเพื่อดูคอนเทนท์ Instagram ยังเพิ่มวิธีใหม่ในการป้องกันภาพหน้าจอและการบันทึกวิดีโอหน้าจอ เพื่อช่วยปกป้องไม่ให้นำเนื้อหาพิเศษของผู้สร้างไปเผยแพร่ ในขณะเดียวกันก็แชร์กรณีศึกษาใหม่ เคล็ดลับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
