ฟีเจอร์ Apple Intelligence ประกาศเปิดตัวพร้อมกับ iOS 18 ให้ใช้งานกันตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และแม้ว่าแอปฯ ส่วนใหญ่จะรองรับฟีเจอร์นี้ แต่ทางผู้พัฒนาก็สามารถเลือกไม่ใช้งานได้เช่นกัน และดูเหมือนว่าทาง Meta เองก็จะตัดสินใจไม่ใช้ด้วยเช่นกัน จากรายงานของ Sorcererhat Tech ฟีเจอร์อย่าง ‘Writing Tools’ ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างข้อความ, เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงตรวจสอบข้อความด้วย Apple Intelligence นั้นไม่สามารถใช้ได้บนแอปฯ ของ Meta อย่าง Facebook, WhatsApp
Meta กำลังเผชิญกับการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดทางการค้า ที่อาจบีบบังคับให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของบริษัทต้องขายแอปฯ Instagram และ WhatsApp ออกไป คณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (Federal Trade Commission) หรือ FTC ได้ยื่นขึ้นต่อ Meta ในวันที่ 14 เมษายน 2025 ที่วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา โดยทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคระบุว่า Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook
Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ‘Lockable’ ที่หากใช้ใครที่จะดูโพสต์ได้จะต้องมีรหัสเพื่อปลดล็อกเท่านั้น เพิ่มการมีส่วนร่วมเฉพาะกลุ่มให้กับผู้ติดตามบน Reel และโพสต์รูปภาพ สำหรับฟีเจอร์นี้ถูกทดลองเป็นโพสต์แรกแล้วครับ โดย Meta ผ่านบัญชี Instagram Design ที่ให้ผู้ใช้ต้องใส่รหัสก่อนถึงถึงจะปลดล็อกการเข้าถึงโพสต์ได้ ซึ่งถ้าใครไปลองเล่นก็จะเห็นคำใบ้ว่าให้ใส่ hastag ตัวแรกในแคปชันเพื่อปลดล็อกโพสต์ โดยมีข้อความ “Coming soon” ปรากฏขึ้นเมื่อเราใส่รหัสได้ถูกต้อง Lockable นอกจากจะใช้เพิ่มการมีส่วนร่วมเฉพาะกลุ่มอย่างในกลุ่มเพื่อนหรือแฟนคลับแล้ว ฟีเจอร์นี้ก็ยังสามารถนำไปปรับใช้กับโมเดลธุรกิจอย่างการแจกส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่มีรหัสปลดล็อก หรือแชร์เนื้อหาเฉพาะกลุ่มอีกด้วย ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับฟีเจอร์ Reveal sticker
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 Meta ประกาศเปิดตัว Llama 4 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Llama ชูจุดเด่นคือการเป็นโมเดลแบบ multimodal อย่างแท้จริงที่สามารถเข้าใจและประมวลผลข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่เพียงข้อความเท่านั้น Llama 4 เปิดตัวพร้อมกันสองรุ่นหลัก ได้แก่ สถาปัตยกรรมใหม่ของ Llama 4 สิ่งที่น่าสนใจคือ Llama 4 ทั้งสองรุ่นถูกพัฒนาด้วยสถาปัตยกรรมแบบ “Mixture-of-Experts” (MoE) ซึ่งทำให้โมเดลมีความฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ Meta ได้เผยความลับในรายการ The Colin & Samir Show ว่าเสื้อตัวที่เขาใส่อยู่นั้นมีมูลค่าสูงเกือบ 140,000 บาท ซึ่งเสื้อตัวนี้ คือเสื้อตัวเดียวกับที่ เจสซี ไอเซนเบิร์ก นักแสดงนำที่มารับบทบาทเป็นตัวเขา ใส่ในภาพยนตร์ ‘The Social Network’ เมื่อปี 2010 โดยตัวเสื้อสกรีนประโยคว่า “Ardsley Athletics XXL” ซึ่งเป็นเสื้อยืดของโรงเรียนมัธยม Ardsley
เรียกว่าเป็นอีกความพยายามในการดึงครีเอเตอร์เข้ามาสร้างคอนเทนท์บน Facebook ด้วยการเปิดให้สร้างรายได้จาก Stories ได้แล้ว Meta เพิ่มแรงจูงใจใหม่เพื่อให้กับเหล่าครีเอเตอร์ ด้วยการสร้างรายได้ผ่านการดู Stories บน Facebook ได้แล้วทั่วโลก เนื่องจากหลายคนแชร์รูปภาพหรือวิดีโอผ่าน Stories อยู่แล้ว เรียกว่าเพิ่มช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงแรงเยอะ แต่ครีเอเตอร์ที่อยากร้างรายได้นั้นต้องสมัครเข้าร่วมกับโปรแกรมสร้างรายได้ก่อน (Content Monetization program) นอกจากนั้น Meta ยังเพิ่มตัวเลือกการจ่ายเงินเพื่อให้คร้เอเตอร์หันมาโพสต์เนื้อหาบน Facebook มากขึ้น ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้นมีการเปิดตัวโปรแกรม “breakthrough bonus program” ด้วยการเสนอเงินพิเศษ 5,000
Meta เปิดตัว Aria Gen 2 แว่นเสมือนจริงรุ่นต่อไปในโครงการ Project Aria สำหรับใช้ในการวิจัย เพิ่มความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ Aria Gen 2 เริ่มพัฒนาหลังจากเปิดอุปกรณ์ Aria รุ่นแรกประมาณ 5 ปี มาพร้อมชิปที่ปรับแต่งเองของ Meta และชุดเซ็นเซอร์ที่อัปเกรดขึ้น เพื่อรองรับการทำงานของความสามารถใหม่ๆ ให้กับแพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นก็คือ เซ็นเซอร์ PPG ช่วยให้วัดอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใส่ รวมถึงมีไมโครโฟนแบบสัมผัสเพื่อแยกเสียงของผู้สวมใส่จากเสียงของผู้สังเกตการณ์ ทาง Meta
Facebook Live ถือเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนทั่วโลกใช้งาน ล่าสุดทาง Facebook ได้ปรับนโยบายใหม่ เก็บวิดีโอไลฟ์สด 30 วัน หลังจากนั้นจะลบอัตโนมัติ มีผลตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป นโยบายใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยวิดีโอที่เราทำการถ่ายทอดสดไปแล้ว จะสามารถเล่นซ้ำ ดาวน์โหลด หรือแชร์จากเพจหรือโปรไฟล์บน Facebook ได้เป็นเวลา 30 วัน หลังจากนั้นคลิปวิดีโอไลฟ์สดจะถูกลบออกจาก Facebook โดยอัตโนมัติ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ระบบจะจัดเก็บวิดีโอเหล่านี้โดยไม่มีการลบ ทาง Meta ให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นไปตามนโยบายเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม และช่วยให้แน่ใจว่าได้มอบประสบการณ์การรับชมวิดีโอถ่ายทอดสดที่เป็นปัจจุบันที่สุดให้แก่ผู้ชมทุกคนบน Facebook ส่วนคลิปถ่ายทอดสดที่เผยแพร่ก่อนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นั้นจะถูกลบออกทั้งหมด และไม่สามารถเข้าชมวิดีโอดังกล่าวได้อีกต่อไป ซึ่งทาง Facebook จะเริ่มทยอยส่งการแจ้งเตือนให้เจ้าของวิดีโอถ่ายทอดสดดังกล่าวทราบตั้งแต่ช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป รวมถึงเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดวิดีโอถ่ายทอดสดของตนได้ก่อนที่จะถูกลบ เมื่อได้รับการแจ้งเตือนแล้ว ผู้ใช้จะมีเวลา 90 วันในการเลือกว่าจะทำอย่างไรกับเนื้อหาถ่ายทอดสดเก่าๆ
หลังจากที่ TikTok และแอปในเครือถูกแบนในสหรัฐอเมริกา ทาง Meta ได้ประกาศเปิดตัว CapCut เวอร์ชันของตัวเองในชื่อว่าแอป Edits ล่าสุดทางบริษัทได้เผยตัวอย่างฟีเจอร์ AI ที่เราจะได้ใช้งานกัน แอป Edits จะเปิดตัวให้ใช้งานจริงในเดือนหน้า โดยเปิดให้ใช้งานในบางประเทศก่อน ในส่วนของดีไซน์นั้นค่อนข้างคล้ายกับแอป CapCut มาก มาพร้อมคุณสมบัติการตัดต่อวิดีโอมากมายที่ Meta บอกว่าจะให้บริการฟรี ฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้ในช่วงแรกก็มี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Instagram ได้เปิดเผยหมายเหตุเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่จะมาถึง ฟีเจอร์แรกก็คือ Collaboration สามารถทำงานร่วมกันหลายคนได้ ซึ่งเราสามารถเชิญคนอื่นมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่กำลังทำอยู่ได้
ในโลกการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทุกวันนี้ การติดตามเทรนด์สังคมต่างๆ มีความสำคัญอย่างมากในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ ขณะที่ความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โซเชียลมีเดีย ครีเอเตอร์ เพื่อน และครอบครัวกำลังกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนค้นพบและตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆประเทศไทยเองก็เช่นกัน จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด eMarketer เอเชียแปซิฟิกยังคงครองฐานผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลกด้วยจำนวนผู้ใช้รวมกว่า 2.3 พันล้านคน นับว่าเติบโตรวดเร็วยิ่งกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก ตอกย้ำจุดยืนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในฐานะฐานผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก Meta แชร์ 5 เทรนด์โซเชียลมีเดียสำคัญที่ธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญในปี พ.ศ. 2568 เพื่อให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และยังคงความเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่อง 1. Generative AI ผู้บริโภคและธุรกิจได้สัมผัสถึงประโยชน์ของ Generative AI และมีการนำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิในการทำงาน และนำเอไอมาเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเนื้อหา แนวคิด และโซลูชันใหม่ ๆ ด้าน Meta เองได้พบว่ามีผู้ใช้งานเครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณาด้วย Generative AI อย่างแพร่หลาย โดยผู้โฆษณามากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลกใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นประจำเพื่อพัฒนาผลงาน ส่งผลให้มีชิ้นงานโฆษณามากกว่า 15 ล้านโฆษณาด้วยเครื่องมือเอไอของ Meta ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 เพียงเดือนเดียว ทั้งนี้ 30% ของลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Meta ในเอเชียแปซิฟิกและประเทศไทยได้ใช้เครื่องมือเอไอของ Meta ในการสร้างพื้นหลัง (Background Generation) ของงาน
