Omoda & Jaecoo ฉลองครบรอบ 1 ปีในไทยอย่างยิ่งใหญ่ ประกาศเดินหน้าโรงงานผลิตในประเทศ เตรียมเริ่มสายการผลิตช่วงปลายปี พร้อมแผนเปิดศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์วิจัย-พัฒนา (R&D) ดันไทยขึ้นเป็นฐานผลิต NEV ส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)
Omoda & Jaecoo เป็นหนึ่งในค่ายรถจากจีนที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ ภายใต้บริษัทแม่ CHERY Group ซึ่งติดอันดับ 233 ใน Fortune Global 500 และมียอดส่งออกรถสะสมทะลุ 5 ล้านคัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 211,682 คัน ครองตำแหน่งแบรนด์ที่มียอดเติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 1
ขณะที่ตลาดไทยก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ ทำยอดขายรวมกว่า 10,000 คัน จากเดิมที่ปีที่แล้วมีโชว์รูมเพียง 20 แห่ง ปัจจุบันขยายเป็น 60 แห่งในไตรมาส 3 และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 90 แห่งภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการส่งมอบรถให้ลูกค้ากว่า 1,200 คัน ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านความคืบหน้าโรงงานใหม่ในอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงปลายปี โดยเฟสแรกจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ Omoda 6 EV, Omoda 5 EV และ Jaecoo C5 EV กำลังการผลิตเริ่มต้น 50,000 คันต่อปี เพื่อป้อนตลาดในประเทศ ก่อนขยายเป็น 80,000 คันภายใน 5 ปี เพื่อรองรับการส่งออกไปยังประเทศพวงมาลัยขวาในภูมิภาค
ส่วนแผนระยะยาวในปี 2027 จะต่อยอดโรงงานให้เป็น ศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ครบวงจร รองรับการพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรม โดยมีพันธมิตรสำคัญอย่าง HUAWEI และ DHL ร่วมมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบโลจิสติกส์ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็น ฮับการผลิตและส่งออก NEV ในเอเชียแปซิฟิก
ในส่วนของบริการหลังการขาย Omoda & Jaecoo เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านบริการ “OJ O-Jai” (โอเจโอใจ) ครอบคลุมทุกความช่วยเหลือ ทั้ง Call Center 24 ชั่วโมง, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ในระยะทาง 200 กิโลเมตรจากศูนย์บริการ, บริการ จั๊มสตาร์ทแบตเตอรี่, เปลี่ยนยางอะไหล่, ช่วยเหลือกรณีลืมกุญแจล็อกรถ รวมถึง รถสำรองสำหรับใช้งานระหว่างรอซ่อม เพื่อมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร