ความเคลื่อนไหวในวงการปัญญาประดิษฐ์ เอไอพัฒนาไปถึงขั้นไหน มีผลกระทบอย่างไร Ceei รวบรวมมาแล้ว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางนักวิเคราะห์บางคนเริ่มรายงานเมื่อสัปดาห์นี้ว่า Apple อาจเรียกเก็บเงินสูงถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนสำหรับใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง Apple Intelligence ล่าสุดมีข้อมูลว่า Apple อาจจะเริ่มเก็บค่าบริการในอีก 3 ปีข้างหน้า ในจดหมายข่าว Power On สุดสัปดาห์นี้ ทาง Mark Gurman จาก Bloomberg ได้พูดถึงรายงานล่าสุดบางส่วนเกี่ยวกับฟีเจอร์ Apple Intelligence แบบเสียเงิน แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว Apple จะเริ่มเรียกเก็บเงินสำหรับฟีเจอร์ AI
นักวิเคราะห์คาด Apple อาจเก็บค่าบริการจากผู้ใช้สูงถึง 20 ดอลลาร์ เพื่อใช้งานฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงของ Apple Intelligence เพื่อกระตุ้นการเติบโตกำไรจากธุรกิจบริการ หลังจากที่ Apple ประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ระบบปัญญาประดิษฐ์ในเดือนมิถุนายน อัปเกรด Siri ให้ทำงานฉลาดขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เช่น สร้างอีเมลและรูปภาพโดยอัตโนมัติ โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยเปิดตัวในช่วงปลายปี แต่บางภูมิภาคต่างๆ เช่น จีนและยุโรป จะยังไม่ได้สามารถใช้งานในช่วงแรกได้ ส่วนใครที่อยากใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงอาจต้องสมัครใช้บริการสมัครแบบรายเดือน Neil Shah จาก
ByteDance เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อว่า Jimeng AI เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสั้นด้วยการเขียน prompt ได้ อีกในไม่ช้า TikTok จะมีเครื่องมือ AI สำหรับเปลี่ยนข้อความเป็นวิดีโอ เมื่อบริษัทแม่ ByteDance เปิดตัวแอปใหม่ชื่อว่า “Jimeng AI” สำหรับใช้งานในประเทศจีน จากหน้าเว็บของ Jimeng AI จะเปิดให้เราสร้างวิดีโอสั้นๆได้จากข้อความที่เราพิมพ์เข้าไป (ซึ่งบริการส่วนใหญ่จะสร้างได้ไม่เกิน 5 วินาที) เราจะเห็น AI สร้างตัวละคร สิ่งของ รวมถึงฉากหลังให้ทั้งหมด นอกจากนั้นเรายังสร้างภาพนิ่งจากข้อความได้ด้วย
Circle to Search เป็นฟีเจอร์ Google ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปภาพได้ทันที ซึ่งยังดูได้ถึง ข้อมูลเมตา แหล่งที่มา ตรวจสอบว่ารูปภาพนั้นเป็นรูปจริงหรือไม่ ในบล็อกโพสต์ของ Google ได้เผยแพร่ข้อมูลของฟีเจอร์ “About this image” ใน Circle to Search และ Google Lens ว่า ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริบทของรูปภาพ ไม่ว่ารูปนั้นจะมีที่มาจากไหนก็ตาม Google ยกตัวอย่างว่า “หากเพื่อนส่งรูปภาพก้อนเมฆที่ดูคล้ายยูเอฟโอมาให้เราทางข้อความ
Meta ประกาศอัปเดตโมเดล AI LLM แบบโอเพนซอร์สที่ใหญ่ที่สุดให้เป็น Llama 3.1’ (ลาม่า) สามารถใช้งานภาษาไทยได้ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมและความร่วมมือภายในชุมชน AI โดยการมอบเครื่องมือที่ล้ำสมัยให้กับนักพัฒนา นักวิจัย และธุรกิจต่างๆ Llama 3.1 มีความสามารถอะไรใหม่บ้าง? Llama 3.1 มาพร้อมกับโมเดล 8B และ 70B ซึ่งมีการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดตัว Llama 3 405B ซึ่งเป็นโมเดลแบบโอเพนซอร์สที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ นำเสนอประสิทธิภาพการทำงานที่มีความยืดหยุ่น
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟน Galaxy A ตอนนี้ทางซัมซุงเตรียมอัปเดจให้บางรุ่นที่เปิดตัวในปี 2024 สามารถใช้งาน Galaxy AI ได้ แหล่งข่าวรายงานว่า Galaxy AI นั้นจะอัปเดตให้ใช้งานได้บน Galaxy A ที่เปิดตัวในปี 2024 โดย 2 รุ่นแรกก็คือ, Galaxy A35 และ Galaxy A55 แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ เนื่องจากสเปกอาจจะไม่ได้แรงเท่ารุ่นเรือธง ข้อแรกคือ ฟีเจอร์ AI นั้นจะใช้งานได้บางฟีเจอร์เท่านั้น โดยเฉพาะบางฟีเจอร์ต้องใช้การประมวลผลของชิปในอุปกรณ์
Google ซุ่มพัฒนา Gemini ให้ขยายการทำงานมากกว่าบนมือถือและเว็บ ล่าสุดมีมือดีไปขุดพบคำว่า “Gemini on earbuds.” ที่จะเปิดให้ใช้งานผ่านหูฟังไร้สาย เมื่อเดืนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลังจากเปิดตัวแอป Gemini บนสมาร์ทโฟน ทาง 9to5google ได้ข้อมูลมาว่า “แอปมือถือ Gemini กำลังดำเนินการขยายความพร้อมใช้งานเพื่อให้เข้าถึงได้บนหูฟัง” มาวันนี้แอป Google 15.31 เปิดเผยวิธีที่เราสามารถ “พูดคุยกับ Gemini บนหูฟัง” ซ่อนอยู่ในโค้ด <string name=”assistant_bisto_gemini_on_buds_notification_text”>Your new AI
ใครที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้รวดเร็วขึ้นตอนนี้มี Maximo หุ่นยนต์สุดล้ำที่มาพร้อม AI ช่วยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้อย่างรวดเร็ว Maximo คือ หุ่นยนต์ที่พัฒนาโดย AES Corporation ใส่ความสามารถของ AI เข้าไปเพื่อให้ทำงานติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้แรงงานคน ตอบสนองความต้องการติดตั้งที่เพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของ IEA คาดการณ์ว่า ภายในปี 2035 ความต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว โดยเฉพาะเทรนด์ของ Data center ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นจำเป็นต้องใช้พนักงานเพิ่มขึ้นสองเท่า โดย Maximo นั้นจะใช้เวลาและค่าติดตั้งลดลงครึ่งนึง
ปกติแล้ว brain-computer interfaces (BCI) นั้นจะใช้การผ่าตัดฝังชิปลงสมอง เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิดได้ แต่ทาง Synchron ใช้วิธีต่างออกไป ด้วยการส่งอิเล็กโทรดผ่านทางเส้นเลือดไปยังสมองส่วนที่ควบคุมกรเคลื่อนไหว ผลที่ได้คือ ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถควบคุม Vision Pro โดยใช้ความคิด BCI นั้นช่วยให้ผู้ป่วยหลายๆโรคโดยเฉพาะคนที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง หรือประสาทที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว สามารถกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น ช่วงปลายปี 2021 มีผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงออสเตรเลียรายแรกที่ผ่าตัดสำเร็จ สามารถทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ด้วยความคิดได้ เขียนอีเมลสื่อสารกับครอบครัว เป็นต้น แต่การผ่าตัดนั้นก็ต้องใช้เวลาเพราะเราต้องเปิดศรีษะ ทาง Stentrode ก็เลยคิดค้นวิธีการใหม่ เพื่อให้เกิดแผลน้อยที่สุด โดยเริ่มต้นจากนำ
Wall Street Journal รายงานว่า OpenAI พัฒนาเครื่องตรวจสอบลายน้ำ ป้องกันนักเรียนใช้ ChatGPT เขียนบทความเพื่อโกงสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ประกาศว่าใช้งานได้เมื่อไหร่ ทาง Wall Street Journal รายงานว่า OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตรวจจับบทความที่เขียนโดย ChatGPT ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทางบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการวิจัยเกี่ยวกับลายน้ำในข้อความ ส่วนสาเหตุที่ไม่เปิดเผยวิธีการตรวจจับเป็นเพราะว่ากำลังพิจารณาว่า ควรเปิดตัวเครื่องมือนี้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ทางTechCrunch ได้พบเห็น OpenAI โพสต์ในบล็อกว่า “ทีมงานของเราได้พัฒนาวิธีการลายน้ำในข้อความ ซึ่งเราจะพิจารณาการใช้งานต่อไป รวมถึงเราค้นคว้าทางเลือกอื่นด้วย” การใส่ลายน้ำเป็นหนึ่งในหลายโซลูชัน
