โลกที่ร้อนขึ้นส่งผลกระทบต่อสมองและสุขภาพโดยตรงไม่เว้นแม้แต่เด็กในครรภ์

THE SUMMARY:

เราทุกคนล้วนทราบกันดีว่าโลกกำลังร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าความที่มากขึ้นย่อมส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง ซึ่งนักวิทยาศาตร์ระบุว่าคลื่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อสมองของเรา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคทางระบบประสาทอยู่เดิม จะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้คนทั่วไปอย่างชัดเจน

โดยปกติแล้ว สมองของมนุษย์จะมีการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงกว่าอุณหภูมิร่างกายทั่วไปเกิน 1 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังเป็นอวัยวะที่มีการใช้พลังงานที่มาก จะทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นระหว่างการใช้งาน เช่น การจดจำหรือตอบสนองต่ออะไรบางอย่าง การไหลเวียนของเลืดในระบบสมองจะช่วยระบายความร้อนออกไปได้ สาเหตุที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิเนื่องจากเซลล์สมองไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ แต่หากอากาศร้อนมากเกินไปสมองของเราจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่น้อยลง คล้าย ๆ กับ CPU ของคอมพิวเตอร์เลย

ความร้อนที่มากเกินไปจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้คน แต่สำหรับผู้ที่มีโรคทางสมองจะมีอาการที่แรงกว่า เช่น โรค Dravet Syndrome ในเด็กซึ่งจะมีอาการชักเพิ่มขึ้นในช่วงอากาศร้อนจัดหรือเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โรคทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง สโตรค โรคพาร์กินสัน และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis) และไมเกรนเองก็ได้รับผลกระทบที่รุนแรงขึ้นจากความร้อนเช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในปี 2022 ก็มีสถิติความเสียหายของระบบประสาทที่คล้ายกันช่วงคลื่นความร้อนในสหราชอาณาจักร คลื่นความร้อนยุโรปปี 2003 พบว่า 7% ของผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากปกตินั้นเกิดจากปัญหาด้านระบบประสาทโดยตรง ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้บ่งชี้ชัดเจนว่าคลื่นความร้อนส่งผลต่อสมองและระบบประสาทโดยตรง ที่สำคัญคือในเวลากลางคืนที่ไม่เย็นลงจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับโดยตรง การนอนหลับที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่ออารมณ์ และทำให้โรคบางอย่างกำเริบขึ้นขณะนอนหลับ เช่น โรคลมชัก

การศึกษายังพบว่าคลื่นความร้อนทำให้มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยในวันที่ร้อนที่สุดจะมีผู้เสียชีวิตเกินเพิ่มขึ้น 2 รายในทุก ๆ 1,000 รายที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองทั่วโลก นับเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 รายต่อปี ซึ่งปัญหานี้จะพบมากโดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางที่ระบบสาธารณสุขยังไม่ดีมากพอ

สำหรับทารกในครรภ์ นักวิทยาศาสตร์พบว่าคลื่นความร้อนมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดก่อนกำหนดซึ่งสัมพันธ์กับความล่าช้าในการพัฒนาทางประสาทและปัญหาด้านสติปัญญา นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงมากยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการทำลายชั้นป้องกันสมองหรือ blood-brain barrier ทำให้สารพิษ แบคทีเรีย หรือไวรัสต่างๆ แทรกซึมเข้าสมองง่ายขึ้น รวมถึงการระบาดของโรคที่เกิดจากยุง เช่น ไวรัสซิกา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทางสมองในทารกได้

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ยุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลง ยุคแห่งการเดือดของโลกได้มาถึงแล้ว

ที่มา BBC

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...