งานวิจัยพบถั่วลิสงในไทยมีสารอะฟลาทอกซิน หรือสารก่อมะเร็งในระดับสูงเกินไป

THE SUMMARY:

อะฟลาทอกซิน (Aflatoxins) เป็นสารพิษกลุ่มไมโคตอกซินที่มีฤทธิ์ก่อมะเร็ง สร้างขึ้นโดยเชื้อรา Aspergillus flavus และ A. parasiticus ซึ่งสามารถปนเปื้อนในวัตถุดิบอาหารได้อย่างถั่วลิสงได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารอาหารที่มีแอฟลาทอกซินในระดับสูงก็มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเช่นเดียวกัน

ในประเทศไทยนั้น ถั่วลิสงถือเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่ใช้ในอาหารไทยหลายเมนู เช่น ผัดไทย ส้มตำ และก๋วยเตี๋ยว ดังนั้นการศึกษาระดับการปนเปื้อนของแอฟลาทอกซินในถั่วลิสงที่วางขายในตลาดจึงมีความสำคัญสำหรับผู้บริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่มีสาเหตุมาจากอะฟลาทอกซิน

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้เก็บตัวอย่างถั่วลิสงจำนวนรวม 60 ตัวอย่าง จากร้านค้าปลีกและค้าส่งในกรุงเทพระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึง มกราคม 2557 (2013-2014) โดยแบ่งเป็นชนิดดิบ คั่ว และบด จากนั้น นักวิจัยได้วัดความเข้มข้นของอะฟลาทอกซิน (AFs) และเฉพาะ Aflatoxin B1 หรือ AFB ในตัวอย่าง แล้วคำนวณปริมาณการบริโภคเฉลี่ย และประเมินความเสี่ยงมะเร็งที่อาจเจอด้วย

เสริม: Aflatoxin B1 เป็นสารก่อมะเร็ง Class I ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตับ และยังสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 260 องศาเซลเซียส ทำให้การทดอาหารหรือความร้อนจากการแปรรูปอาหารทั่วไป ๆ ไม่สามารถทำลายสารชนิดนี้ได้

ผลการศึกษา

อัตราการปนเปื้อน

  • ถั่วลิสงดิบ: พบ AFs ใน 80% ของตัวอย่าง
  • ถั่วลิสงคั่วและบด: พบ AFs ใน 100% ของตัวอย่าง

ความเข้มข้นสูงสุดและเฉลี่ย

  • ถั่วลิสงบด พบความเข้มข้นสูงสุดถึง 362.48 ng/g และเฉลี่ยที่ 68.22 ng/g
  • ถั่วดิบ: ค่าเฉลี่ย 47.11 ng/g
  • ถั่วคั่ว: ค่าเฉลี่ยต่ำสุด 13.50 ng/g

ปริมาณการบริโภคเฉลี่ย (นาโนกรัมต่อกิโลกรัม ของน้ำหนักตัวต่อวัน)

  • ดิบ: ประมาณ 0.49 ng/kg bw/day
  • คั่ว: ประมาณ 0.40 ng/kg bw/day
  • บด: ประมาณ 2.13 ng/kg bw/day

ประเมินความเสี่ยงมะเร็ง

ความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคมะเร็งจากถั่วลิสงที่ประเมินไว้ที่ 0.01–0.12 คนต่อปีต่อประชากร 100,000 คน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันของการปนเปื้อนของอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง (โดยเฉพาะถั่วลิสงบด) ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชากรไทยอย่างชัดเจน

แม้ในผลศึกษานี้ ความเสี่ยงมะเร็งที่คำนวณไว้จะอยู่ในระดับต่ำ (น้อยกว่า 1 รายต่อ 100,000 คนต่อปี) แต่หากพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้อย่างมีนัยสำคัญเหมือนกัน

อ่านงานวิจัยเต็ม

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...