ในยุคที่เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เรื่องนี้ซีอีโอของ McDonald’s ออกมาบอกเองเลย
คริส เคมป์ซินสกี้ (Chris Kempczinski) ซีอีโอของ McDonald’s ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่าตอนนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มระดับล่างและระดับกลางมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคในระดับล่าง-กลาง กำลังเจอแรงกดดันจากราคาอาหารที่สูงขึ้น แต่ผู้บริโภคระดับบนยังไม่รู้สึกถึงผลกระทบนี้ ทำให้ผู้บริโภค 2 ระดับเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ McDonald’s เองต้องปรับแผนการตลาดและเมนูอาหารใหม่ด้วยเหมือนกัน
ผู้บริฌภค 2 กลุ่มนี้เริ่มเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน ลดการสั่งซื้อ หรือเปลี่ยนไปซื้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อแทน ร้านอาหารยอดนิยมอย่าง IHOP, Chipotle, Denny’s และ Sweetgreen ต่างเห็นชัดเจนว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการลดลงจากภาวะราคาที่สูงและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ด้าน McDonald’s มีรายได้ต่อสาขาที่ลดลง 3.6% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ยุคการแพร่ระบาดของ Covid-19
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา McDonald’s เจอปัญหาด้านราคาสินค้าและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ (inflation), ภาษีนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น (tariffs) และต้นทุนทางการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2024 ราคาเมนูโดยเฉลี่ยของ McDonald’s เพิ่มขึ้นถึง 40% ซึ่งมากกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้เอง McDonald’s จึงเปิดตัวเมนู “Extra Value Meals” ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2025 โดยประกอบด้วยชุดอาหารประหยัดราคา เช่น Big Mac Meal ที่ราคา 8 เหรียญและ Sausage McMuffin Meal ราคา 5 เหรียญซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าการสั่งแยกประมาณ 15% เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเมนูแบบประหยัดโดยเฉพาะ
จากรายงานนี้จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายด้านอาหารสูงขึ้น แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็พบปัญหาเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ที่มา NBCNews