หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์คริปโตหลากหลายประเภท ทั้งสเตเบิลคอยน์ โทเคนดิจิทัล มีมคอยน์ และแพลตฟอร์มขุดบิตคอยน์ ล่าสุด World Liberty Financial บริษัทในเครือครอบครัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดตัว “บัตรเดบิตคริปโต” เพื่อขยายอาณาจักรการเงินดิจิทัลให้ครบวงจรยิ่งขึ้น
บัตรเดบิตนี้จะเชื่อมโยงสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้น คาดจะเปิดให้ใช้งานภายในปีนี้ โดยแซค วิทคอฟฟ์ ซีอีโอของบริษัท World Liberty Financial เผยในการประชุมคริปโตที่สิงคโปร์เมื่อวันพุธว่า โครงการนำร่องจะเริ่มขึ้นในไตรมาสหน้า ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หรือไม่เกินต้นปี 2026
สำหรับ World Liberty Financial นับเป็นบริษัทร่วมทุนของสามพี่น้องตระกูลทรัมป์ ได้แก่ โดนัลด์ จูเนียร์, เอริค และบาร์รอน ซึ่งก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยมีสถานะเป็น “ผู้ร่วมก่อตั้งกิตติมศักดิ์” ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
บัตรเดบิตคริปโตจะไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะยักษ์ใหญ่ด้านการงินอย่างว VISA และมาสเตอร์การ์ดก็มีผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันซึ่งจับมือร่วมกับแพลตฟอร์มคริปโตอยู่แล้ว แต่บัตรเหล่านี้ก็มาพร้อมผลทางภาษีที่น่าสนใจ เนื่องจากทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นต้องเสียภาษี แม้จะเป็นธุรกรรมที่มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ถ้าหากมูลค่าคริปโตของผู้ใช้ลดลงจากวันที่ซื้อ ก็สามารถขอคืนทุนเพื่อลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่างคริปโต
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา World Liberty Financial ดำเนินธุรกิจโดยยึดแนวคิด “การกระจายอำนาจทางการเงิน” หรือการลดบทบาทของธนาคารและตัวกลาง เพื่อให้ธุรกรรมด้านการเงินเป็นอิสระมากขึ้น ภายใต้ยุคทรัมป์ แนวทางนี้ได้รับแรงสนับสนุนอย่างมาก เนื่องจากเขาผลักดันให้คริปโตเคอร์เรนซีได้รับการยอมรับในระบบการเงินของสหรัฐฯ
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบหลายอย่าง และตั้งเป้าผลักดันให้สหรัฐฯ กลายเป็น “เมืองหลวงคริปโตของโลก” รวมถึงการยกเลิกมาตรการบังคับใช้ต่อบริษัทคริปโตบางแห่ง เช่น Coinbase, Crypto.com และ Kraken ส่งผลให้อุตสาหกรรมกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทรัมป์ยังผลักดันร่างกฎหมายรับรองสถานะทางกฎหมายของ Stablecoin และลงนามให้มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเปิดตัวเหรียญ Stablecoin ของครอบครัวในชื่อ “USD1”
แม้ในอดีต ทรัมป์จะเคยตั้งข้อสงสัยต่อคริปโต แต่ปัจจุบันเขากลับกลายเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ ทั้งยังใช้พลังด้านกฎระเบียบหนุนอุตสาหกรรมนี้เต็มที่ ซึ่งนอกจากจะสร้างความชอบธรรมให้คริปโตในสายตานักลงทุนแล้ว ยังทำให้ครอบครัวของเขากวาดรายได้มหาศาล
รายงานจากรอยเตอร์สระบุว่า นับตั้งแต่เปิดตัว World Liberty Financial ครอบครัวทรัมป์ทำรายได้กว่า 500 ล้านเหรียญ (16,200 ล้านบาท) และมูลค่าหุ้นรวมของตระกูลในบริษัทพุ่งแตะ 5,000 พันล้านเหรียญ (162,000 ล้านบาท) หลังบริษัทเริ่มเปิดซื้อขายโทเคนดิจิทัลเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ที่มา gizmodo