
เมื่อวิกฤตชิปขาดแคลนจากกระแส AI ทวีความรุนแรงขึ้น จากการเติบโตและการลงทุนในดาตาเซนเตอร์ทั่วโลก ส่งผลให้ราคา RAM ในตลาดพุ่งสูงอย่างหนัก เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายโยกไลน์การผลิตไปเน้นชิปสำหรับดาตาเซนเตอร์ที่ให้ผลกำไรสูงกว่า ทำให้ผลกระทบจึงตกมาสู่ผู้บริโภคทั่ว ๆ ไป…
นอกจากฝั่ง PC แล้ว คาดว่าสมาร์ตโฟน และแล็ปท็อปในปีหน้าอาจเป็นรายต่อไปที่จะได้รับผลกระทบ และคาดว่าจะมาพร้อม RAM ที่น้อยลงกว่าในรุ่นปัจจุบัน
ปัญหาการขาดแคลนชิปหน่วยความจำทั่วโลกเป็นเรื่องที่มีการรายงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาผู้ผลิตส่วนใหญ่เลือกแก้ปัญหาด้วยการปรับขึ้นราคา แต่เมื่อแนวทางนี้เริ่มไปต่อได้ยาก แผนถัดไปจึงอาจเป็นการลดสเปกหน่วยความจำลงแทน
ตามข้อมูลจาก Lanzuk สื่อข่าววงการเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ รายงานว่า เราอาจเข้าใกล้จุดที่สมาร์ตโฟนที่มาพร้อม RAM 12GB จะถูกผลิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รุ่นระดับล่างที่มี RAM 4GB จะถูกผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนช่องว่างดังกล่าว
ส่วนรุ่นไฮเอนด์ที่มี RAM 16GB อาจกลายเป็นของหายาก และหากยังมีวางจำหน่าย แน่นอนคงมาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งเราก็เริ่มเห็นสัญญาณกันแล้ว จากการเปิดตัว iQOO 15 ในอินเดีย ที่มีราคาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 33% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ไม่เพียงเท่านี้ แต่รวมถึงฝั่งแล็ปท็อปอีกด้วย TrendForce บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ตลาดเทคโนโลยีระดับโลกรายงานว่า แม้แล็ปท็อประดับเริ่มต้นที่ใช้ RAM 8GB จะไม่สามารถลด RAM ลงไปมากกว่านี้ได้จากข้อจำกัดด้านความต้องการทรัพยากรของตัว OS เอง
แต่สำหรับรุ่นระดับกลางจะมีการเปลี่ยนกลับมาใช้ RAM 8GB เป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นท็อปก็มีแนวโน้มปรับลงมาเหลือ 16GB จากเดิมที่เคยให้มาถึง 32GB หรือ 64GB
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ที่วางแผนจะซื้อสมาร์ตโฟนหรือแล็ปท็อปรุ่นใหม่อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นราคาจากภาวะชิปขาดแคลนเริ่มส่งผลมายังสินค้ากลุ่มผู้บริโภคแล้ว หากไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน การรอให้ซัพพลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และราคาปรับตัวลดลงอีกครั้ง อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า…
ที่มา: TechSpot





