World Thailand ไขข้อสงสัย สแกนม่านตาปลอดภัยแค่ไหน

ผู้บริหาร World Thailand จัดงานแถลงข่าวไขข้อสงสัย คลายความเข้าใจผิดและความกังวลที่ผ่านมาเกี่ยวกับระบบยืนยันความเป้ฯมนุษย์

ภัคพล ตั้งตงฉิน ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Tools For Humanity (TFH) เจ้าของโปรเจ็กต์ World และนายฟาเบียน โบดันสไตเนอร์ Managing Director จาก World Foundation จัดงานแถลงข่าวตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับระบบสแกนม่านตายืนยันความเป็นมนุษย์

Wolrd เป็นโปรเจต์ระดับโลกที่พัฒนาโดย Alex Blania และ Sam Altman เนื่องจากพบปัญหาบนโลกออนไลน์ แยกไม่ออกว่าสิ่งที่เห็นเป็นเอไอหรือบอต ทาง World จึงได้พัฒนาเครื่องมือยืนยันความเป็นมนุษย์ขึ้นมา ไม่ใช่การยืนยันตัวตน รวมถึงไม่รู้ข้อมูลส่วนบุคคล 

ปัจจุบันมีผู้ใช้ 33 ล้านคนทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย มีการยืนยันตัวตนแล้ว 15-16 ล้านคน ส่วนในไทยมีคนลงทะเบียนในระบบแล้ว 2 ล้านคน แต่สแกนม่าตายืนยันความเป็นมนุษย์แล้ว 1 ล้านราย

ทำไมถึงเปิดที่ไทย?

ที่ผ่านมาไทยเป็นเป้ามิจฉาชีพ พบการหลอกลวงมากกว่า 168 ล้านครั้ง มูลค่าความเสียหายสี่หมื่นล้านบาท จำเป็นต้องมีระบบที่ดีขึ้น เพื่อให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

ทำใมต้องสแกนมม่านตา?

World มองว่าเป็นวิธีเดียวที่ไม่ระบุตัวตนของผู้คนได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่มีข้อมูลบัตรประชาชนหรือข้อมูลส่วนตัว เริ่มมา 6 ปี ศึกษาวิจัยเน้นการปิดบังตัวตน จนพบว่าการสแกนม่านตาช่วยป้องกันการหลอกลวง

ระบบมีความปลอดภัยสูง เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหัวใจสำคัญ ยืนยันตัวตนด้วยม่านตา ทำบนมือถือของผู้ใช้เท่านั้น กล้องมีความซับซ้อน พิสูจน์ความเป็นมนุษย์เท่านั้น ไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลส่วนบุคคลออกมาได้

ภาพม่านตาที่ได้มา แปลงเป็น Iris Code หมื่นหลัก เก็บเป็นรหัสในมือถือของผู้ใช้ ไม่สามารย้อนกลับมาเป็นภาพม่านตาได้ แม้ใช้คอวนตัมคอมพิวเตอร์ก็ตาม ทุกอย่างเป็น open source ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ตรวจสอบได้ เผยแพร่บน GitHub พร้อมมีบริษัทตรวจสอบ เช่น ClearOp Bridge หรือว่า Theory คอยตรวจสอบ

แล้ว Iris Code มีโอกาสรั่วไหลไหม?

ตัวโค้ดมีการเก็บแบบการเข้ารหัสบนมือถือของผู้ใช้ พร้อมกระจายศูนย์เก็บทั่วโลกด้วยเทคโนโลยี AMPC เช่น มหาลัยเบิร์กลีย์ มีโอกาสโดยเจาะน้อยมากๆ จนถึงแทบเป็นไปไม่ได้การลมข้อมูล 

ข้อมูลทั้งหมดจะเก็บอยู่ในมือถือผู้ใช้ในรูปแบบ PCP ประกอบด้วย Iris Code, ภาพม่านตา และ ภาพใบหน้า ผู้ใช้สามารถเข้าที่การตั้งค่าเพื่อลบข้อมูลทั้งหมดได้ ส่วน AMPC ยังค้างในระบบ แต่ไม่สามารถดึงมารวม เพื่อระบุตัวตนได้ บอกได้เพียงความเป็นมนุษย์เท่านั้น เพราะเป็นโคดที่ระบบสุ่มสร้างขึ้นมา ในกรณีที่มือถือโดนแฮ็ก แม้เข้าสู่แอปได้ แต่ระบบมีความปลอดภัยสูง ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้

World ถูกกฎหมายไทยไหม? 

ทุกอย่างถูกกฎหมายและทำตามหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด เข้าไปขอคำปรึกษาทั้งก่อนเข้าและหลังเข้ามาให้บริการแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานหลักคือ  PDPC ที่รับผิดชอบเรื่อง PDPA รวมถึงปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นที่เกิดขึ้นเนื่องจากหน่วยงานต่างๆ อาจจะได้ข้อมูลไม่ครบ ทำให้เกิดความกังวล หน่วยงานต่างๆ จึงออกมาเตือนถึงความปลอดภัย

แล้ว World ได้อะไรจากการสแกนม่านตา? 

เป้าหมายหลักคือการสร้างดิจิทัลสเปซที่มีศูนย์กลางเป็นมนุษย์ ต้องการสร้างเครือข่ายที่มีคนเป็นศูนย์กลาง เมื่อเครือข่ายเติบโตมากขึ้นก็จะทำให้เกิดความร่วมมือมากขึ้น นักพัฒนาแอปมีมากขึ้น ก็สามารถใช้ World ID แยกคนกับบอตได้ดียิ่งขึ้น  ส่วนในอนาคตทาง World จะสร้างรายได้จากการชาร์จค่าบริการจากธุรกิจที่เชื่อมต่อระบบ

ทำไมแจกเงิน แจกเพื่ออะไร?

World ยืนยันไม่ได้แจกเงินสด แต่แจกเป็นคอยน์หรือโทเคนดิจิทัล World Coin Token ซึ่งผู่ใช้สามารถเก็บไว้ได้, ใช้กับมินิแอปในแอป World หรือเปลี่ยนเป็นเงินบาทได้ ซึ่งบริษัทผ่าน License สามารถแลกเปลี่นเป็นเงินได้

แต่มิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้หาผลประโยชน์ หลอกให้คนมาสแกนมม่านตา ทาง World มีมาตรการจัดการ 3 ด้าน คือ

  • ให้ความรู้และเตือนประชาชนผ่านโซเชียล ที่จุดให้บริการก็มีการแจกแผ่นพับให้รู้เท่าทัน
  • จัดทีมเชิงรุก ค้นหาป้องกันเคสที่เป็นมิจฉาชีพ
  • เปิดให้ผู้ใช้รายงานผ่านแอปเวิร์ล พฤติกรรมที่ผิดปกติ ไม่เหมาะสม ทีมงานจะรีบจัดการทันที

ทาง World ยืนยันไม่มีการจ้างบุคคลที่สามมาเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ไม่มีการเก็บค่าบริการ ไม่มีการแจกเงินสด ไม่มีการรับแลกเหรียญแล้วแปลงเป็นเงินบาท หากพบกรณีเหล่านี้ให้ตั้งข้อสงสัยว่าเป้นมิจฉาชีพ สามารถรายงานปัญหาผ่านแอปได้

เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ ที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ เหมือนเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนไอโฟนที่ออกมาครั้งแรก คนก็กลัวว่าจะใช้ดูดเงินอออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอัะไร ในอนาคตเชื่อว่า ระบบยืนยันความเป็นมนุษย์นี้จะกลายเป็นเรื่องปกติ บางสถานที่ระงับการใช้งาน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่  ทีความเข้าใจไม่เท่ากันโดยเฉพาะหน่วยงานท้องถิ่น ทาง World เลยเลือกหยุดให้บริการก่อนเพื่อให้เกิดความสบายใจ เพื่อใช้เวลาเข้าไปอธิบายให้เข้าใจก่อน

ฝั่งผู้ใช้สามารถติดตามข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมได้ผ่าน Facebook ของ World Thailand และ world.org

ส่วนคนที่ยังไม่ใช้งานหรือสแกนม่านตา ทาง World แนะนำว่า ศึกษาข้อมูลก่อนให้เข้าใจก่อน ว่าเก็บข้อมูลไปเพื่ออะไร ซึ่งทาง World มีความตั้งใจในการสร้างมาตรฐานเทคโนโลยียืนยันความเป็นมนุษย์โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล เพื่อรับมือกับอนาคตที่จะมีบอตมากถึง 90%

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...