
ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าภารกิจเคียงข้างคนไทยในยามวิกฤต นำศักยภาพโครงข่าย “One Network” ทรู 5G ผสานเทคโนโลยีจาก ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เปิดตัว Mobility Data Platform เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนย้ายประชากรแบบเรียลไทม์ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการรับมือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน Mobility Data Platform ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ได้ตรวจพบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าจากรูปแบบการอพยพที่ผิดปกติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่พบจำนวนประชากรลดลงสูงสุดถึง 68% ตามมาด้วยอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล และอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรง
ในช่วงวิกฤตสูงสุดระหว่างวันที่ 23–28 พฤศจิกายน 2568 ข้อมูลชี้ให้เห็นการเคลื่อนย้ายประชากรออกจากพื้นที่เสี่ยงอย่างหาดใหญ่ ควนโดน และนาทวี ลดลงกว่า 40–60% โดยมีจังหวัดนครศรีธรรมราช ยะลา และปัตตานี เป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zones) ที่รองรับผู้อพยพ

นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ “เห็นสิ่งที่ดวงตาอาจมองไม่เห็นได้ทันที” ทั้งความหนาแน่นและเส้นทางการอพยพ ข้อมูลเหล่านี้เป็น Data Intelligence for Public Good ที่ช่วยให้หน่วยงานกู้ภัยจัดลำดับความสำคัญและเข้าช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ทันท่วงที ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลรวมเชิงสถิติที่ไม่ระบุตัวบุคคล (Anonymized Data) เพื่อความโปร่งใสและเป็นส่วนตัว
หนุน 2 ระยะสำคัญ: กู้ภัยและฟื้นฟู Mobility Data Platform ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานใน 2 ระยะ ได้แก่





