ไม่นานมานี้มีแอปพลิเคชันสำหรับติดตามระบบรถไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ในชื่อว่า PaiLeaw เปิดให้ใช้งานบนระบบ iOS ดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store แต่ก็มีการพบว่าแอปพลิเคชัน PaiLeaw ได้ใช้ข้อมูลและ API จากบริษัทนิลิคอนแบบไม่ถูกต้อง
บริษัท นิลิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ตามสัญญาจ้างพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ตรวจพบการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยนักพัฒนาได้เผยแพร่แอปพลิเคชัน PaiLeaw ผ่าน App Store โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิในผลงานของบริษัทอย่างชัดเจน
แอป PaiLeaw เป็นแอปที่มีจุดเด่นคือการติดตามระบบรถไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ และสามารถตั้งสถานีโปรดรวมถึงค้นหาสถานีใกล้เคียงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาแอปได้นำข้อมูลและ API ของนิลิคอนไปใช้ในทางที่ผิดกฏหมาย ทำให้บริษัทนิลิคอนได้ดำเนินคดีกับผู้พัฒนาแอป


ประการแรก การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 5 และมาตรา 7 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ รวมถึงการดัดแปลง แก้ไข หรือคัดลอกข้อมูลอันเป็นความลับของระบบนั้น หากพิสูจน์ได้ว่ามีการเจาะระบบหรือเข้าถึง API โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้กระทำอาจต้องรับโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ด้านกฎหมายมาตรา 5 นั้นอาจถือว่าไม่เข้าข่าย ความคิดเห็นจากคุณ Nathan Yiangsupapaanontr บอกว่า การเข้าถึงข้อมูลที่กล่าว ไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 5 เพราะมาตราดังกล่าวคุ้มครองเฉพาะ “ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ” ซึ่งในกรณีนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีการป้องกันหรือไม่
โดยทั่วไป ผู้ใช้งานจะเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งเป็น HTTP client ที่เรียกข้อมูลจาก API ของผู้ให้บริการ หากมีการยืนยันตัวตน ระบบก็จะตรวจสอบตามปกติไม่ว่าจะเข้าผ่านเบราว์เซอร์หรือโปรแกรมอื่น เช่น curl หรือ Postman การเรียก API ด้วยเครื่องมืออื่นจึงเป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งของการใช้งานตามปกติ ไม่ใช่การแฮ็กหรือเจาะระบบ เว้นแต่มีการหลีกเลี่ยงมาตรการป้องกันจึงจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

ประการที่สอง การนำซอฟต์แวร์หรือ API ที่พัฒนาโดยบริษัทฯ ไปใช้ เผยแพร่ หรือจำหน่ายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 15 และมาตรา 27 ผู้ละเมิดอาจต้องรับโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งบริษัทในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ซึ่งกำหนดว่าผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายนั้น
ประการที่สาม หากพบว่ามีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่อยู่ในระบบของบริษัทไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ย่อมเข้าข่ายการละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเฉพาะมาตรา 27 และ 28 ที่กำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนนำไปใช้ การละเมิดในส่วนนี้อาจส่งผลให้ผู้กระทำต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
บริษัท นิลิคอนฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้เผยแพร่แอป PaiLeaw ให้หยุดการใช้งาน API และนำแอปดังกล่าวออกจาก App Store ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 รวมถึงให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 3 วัน แต่จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ยังพบว่าผู้เผยแพร่ไม่ปฏิบัติตามและยังคงเปิดให้บริการอยู่
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิในผลงานและชื่อเสียงของบริษัท การกระทำในลักษณะนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อเจ้าของผลงานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่พบมากขึ้นในยุคดิจิทัล การเคารพลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้อื่นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรตระหนัก
เนื่องจากแอปพลิเคชันถูกถอดออกจาก App Store ไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถใช้งานต่อได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้งาน iOS ยังสามารถ Refund หรือขอเงินคืนได้อยู่
ที่มา Facebook





