อย่าคิดว่าจะรอด ! โพสต์อะไรในเน็ต ตำรวจไซเบอร์ไทยตามตัวถึงบ้านได้

ใครที่ชอบคิดว่าการป่วนโลกออนไลน์ โพสต์อะไรมั่ว ๆ หรือทำอะไรผิดกฎหมายแล้วจะไม่มีใครตามเจอ…คิดใหม่ได้เลย ! ยิ่งในยุคนี้เทคโนโลยีมันล้ำกว่าที่คุณคิดเยอะ ตำรวจไซเบอร์เค้าตามรอยได้หมดแหละ ไม่ว่าคุณจะใช้ชื่อปลอมหรือซ่อนตัวเก่งแค่ไหนก็ไม่รอด ! ยิ่งตอนนี้รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เค้าก็ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เป็นพิเศษ เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยบนโลกดิจิทัลอย่างจริงจัง

นโยบายปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตำรวจเอาจริง!

บอกเลยว่านโยบายรัฐบาลชัดเจนมาก ทั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้ร่วมกันสั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่ทำงานอย่างเข้มข้น เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีข้อยกเว้น นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าการกระทำผิดบนโลกออนไลน์จะไม่มีที่ยืนอีกต่อไป

เปิดปฏิบัติการรวบสาวดาวทวิตเตอร์ขายคลิปลับ ฟันเงินเป็นแสน แต่สุดท้ายไม่รอด

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจไซเบอร์ (บก.สอท.2) ได้มีการแถลงข่าวใหญ่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วยทีมงานมือดีอย่าง พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงความสำเร็จในการจับกุม น.ส.กานต์ภารวีญ์ฯ อายุ 19 ปี หญิงสาวดาวทวิตเตอร์ (ปัจจุบันคือแอปพลิเคชัน X) ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนราย

น้องคนนี้ไม่ใช่ดาวทวิตฯ ธรรมดานะ เธอเปิดกลุ่มลับขายคลิปอนาจาร ทำรายได้มหาศาลถึงเดือนละเกือบแสนบาทเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเงื้อมมือกฎหมาย

เบื้องหลังการจับกุม ตำรวจไซเบอร์สืบจากรอยเท้าดิจิทัล

คดีนี้เริ่มจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.3 ได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผ่านทางแอปพลิเคชัน X

จากการตรวจสอบพบว่ามีบัญชีชื่อ “JINJIA” ที่มีการโพสต์คลิปวิดีโอที่มีลักษณะลามกอนาจาร ซึ่งจากการตรวจสอบลึกเข้าไปอีกก็พบว่าเป็นคลิปที่เธอไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน แถมยังเปิดการมองเห็นเป็นสาธารณะ (ไม่ต้องกดติดตามก็ดูได้) และที่สำคัญคือมีการขายคลิปเหล่านี้ใน “กลุ่มลับ” อีกด้วย ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชัดเจนเลย

เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่าบัญชี “X” ชื่อ “JINJIA” นี้ มีการโพสต์ลิงก์ชื่อ @jinjiasweetmeat ซึ่งเป็นลิงก์ที่เชื่อมไปยังอีกบัญชีหนึ่งชื่อ “JJ SWEETMEAT” และทั้งสองบัญชีนี้ก็มีการลงคลิปลามกอนาจารในลักษณะเดียวกัน

เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วน ทีมสืบสวนโดย พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.2 บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง รอง ผกก.2 บก.สอท.3, ว่าที่ พ.ต.ต.ชัยเมศร์ เนติวิมลศิลป์ สว.กก.2 บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี และก็เจอตัว น.ส.กานต์ภารวีญ์ฯ ในบ้านพักนั่นเอง

คำสารภาพสุดช็อก ! รายได้เดือนละ 7-9 หมื่นบาท

เมื่อโดนสอบปากคำ น.ส.กานต์ภารวีญ์ฯ ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนถ่ายคลิปและลงคลิปในทวิตเตอร์ (X) จริง โดยเธอมีบัญชีทวิตเตอร์หลายบัญชี เมื่อลงคลิปลามกและมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นบ่อย ๆ คนก็จะมาติดตามเยอะ ทำให้ขายคลิปในกลุ่มลับได้มาก พอมีผู้ติดตามเยอะ ๆ เธอก็จะขายบัญชีนั้นทิ้งไป แล้วก็สร้างบัญชีใหม่ขึ้นมาแทน โดยบัญชี X ที่มียอดผู้ติดตามสูงสุดของเธอคือมากถึง 300,000 ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าขายบัญชีนั้นไปแล้วในราคาหลักพันบาท

ที่น่าตกใจคือ เธอสารภาพว่าทำมาแล้วถึง 4 ปีครึ่ง และมีรายได้จากการทำคลิปเหล่านี้ถึงเดือนละ 70,000 – 90,000 บาท ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบลงที่ห้องขัง

บทเรียนจากคดีนี้ โพสต์อะไร คิดให้ดี

คดีของ น.ส.กานต์ภารวีญ์ฯ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการกระทำผิดบนโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และไม่สามารถหลบหนีการจับกุมได้ง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะใช้ชื่อปลอม สร้างตัวตนปลอม หรือพยายามปกปิดตัวตนแค่ไหน ตำรวจไซเบอร์เค้ามีเครื่องมือและเทคโนโลยีในการแกะรอย และติดตามตัวผู้กระทำผิดได้เสมอ

ข้อหาที่ น.ส.กานต์ภารวีญ์ฯ โดนคือ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ซึ่งมีโทษหนักตามกฎหมาย

จำไว้ให้ดีนะ ก่อนจะโพสต์อะไรลงบนโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นภาพ ข้อความ หรือวิดีโอ ให้คิดให้รอบคอบเสมอว่ามันถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? และจะส่งผลกระทบต่อตัวเองและผู้อื่นอย่างไร? เพราะทุกการกระทำบนโลกออนไลน์ มีร่องรอยเสมอ และร่องรอยเหล่านั้นสามารถนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีได้ในที่สุด