
กรมศุลกากรเตรียมจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศทุกชิ้น บังคับใช้ 1 ม.ค. 2569 สร้างความเป็นธรรมให้ SME ไทย คาดเพิ่มรายได้รัฐกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี
เดิมทีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไปทาง กรมศุลกากรได้ประกาศยกเลิกกำหนดมูลค่าขั้นต่ำ (De Minimis) ส่งผลให้มีการเก็บภาษีนำเข้าทุกชิ้นตามพิกัดอัตราศุลกากร ไม่ว่าจะสั่งร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์ม Shopee หรือ Lazada ที่ส่งสินค้ามาจากต่างประเทศก็ตาม
มาตรการใหม่กำหนดให้ สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไปต้องเสียอากรตามพิกัดภาษีศุลกากร ซึ่งอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า เช่น สินค้าที่ทำจากพลาสติกเสียภาษี 20% บวก VAT 7% คาดจะช่วยเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เก็บได้ ล้านบาทต่อปี ส่วนแผนระยะยาวกรมฯ มีแนวคิดเก็บภาษีเหมารวมทุกพิกัด เช่น กำหนดอัตราเดียว 20–30% ต่อกล่อง ซึ่งต้องรอการแก้ไขกฎหมายก่อน

นอกจากนั้นกรมศุลกากรจะเชิญแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าหารือ เพื่อขอความร่วมมือในการส่งข้อมูลจำนวนและมูลค่าสินค้านำเข้า รวมถึงยอดภาษีที่เกี่ยวข้อง แม้กรมฯ ไม่มีอำนาจบังคับโดยตรง แต่หากแพลตฟอร์มให้ข้อมูลครบถ้วน จะช่วยให้การตรวจปล่อยสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ขณะที่หากไม่ให้ข้อมูล อาจส่งผลให้กระบวนการตรวจปล่อยล่าช้า
ปัจจุบันมี สินค้าต่างประเทศไหลเข้าสู่ไทยกว่า 200 ล้านชิ้นต่อปี มูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท มาตรการใหม่นี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐ สร้างความเท่าเทียมแก่ผู้ประกอบการ SME ไทย และช่วยสกัดสินค้าผิดกฎหมาย เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังเตรียมปรับระบบตรวจปล่อยสินค้าให้เป็นมาตรฐานสากล โดยแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อลดภาระของผู้ประกอบการสุจริต เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเร่งคืนภาษีค้างจ่ายกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจ
ที่มา posttoday





