กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีการตรวจพบว่าในหลายหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการใช้งานซอฟต์แวร์เถื่อน ซึ่งเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและข้อมูลภาครัฐรั่วไหล
ทางนายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ ได้เสนอญัตติด่วนในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 3) ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งยกระดับการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ในหน่วยงานสังกัดกทม. หลังจากพบหน่วยงานหลายแห่งของกทม.ยังใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอยู่
แม้ทางกทม. จะมีนโยบายชัดเจนส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ แต่กลับพบว่าคอมพิวเตอร์หลายหมื่นเครื่องมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากเจ้าหน้าที่บางคนยังแอบลงซอฟต์แวร์เถื่อนเพื่อให้ใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น
การนำซอฟต์แวร์เถื่อนเหล่านี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ของบุคลากรในสังกัดกรุงเทพมหานครนั้นทำให้เกิดความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความผิดละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์อาจโดนฟ้องร้องได้
รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะช่องโหว่ของระบบ MIS และระบบบัญชีทรัพย์สินที่ไม่มีระบบสำรอง หากโดนการโจมตีทางไซเบอร์อาจทำให้ระบบล่มทั้งระบบได้ ทำให้เกิดความเสียหายและการรั่วไหลของข้อมูลทั้งของประชาชนและข้อมูลภาครัฐเอง
กรณีนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ของกรุงเทพมหานครที่ขาดระบบควบคุมและจำกัดสิทธิ์การติดตั้งซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมา กทม.จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการจัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ การควบคุม และตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการสำรวจความต้องการใช้งานซอฟต์แวร์จากทุกหน่วยงาน เพื่อเตรียมเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ในการขอสิทธิใช้งานในราคาที่เหมาะสม พร้อมวางแผนสนับสนุนให้หน่วยงานต่าง ๆ หันมาใช้ ซอฟต์แวร์ฟรี หรือ โอเพนซอร์ส มากขึ้นในอนาคต เพื่อลดต้นทุนและลดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์
ที่มา: matichon