ไม่ใช่แค่ถั่วลิสง แต่พริกแห้งในไทยก็พบสารก่อมะเร็งในระดับสูงเหมือนกัน

THE SUMMARY:

นอกจากถั่วลิสงจะมีปริมาณสารอะฟลาทอกซินหรือสารพิษจากเชื้อราที่ก่อมะเร็งตับได้สูงแล้ว งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังพบว่าพริกแห้งในประเทศไทยก็มีปริมาณสารอะฟลาทอกซินในปริมาณที่สูงเช่นเดียวกัน

นักวิจัยสุ่มตัวอย่างพริกแห้งจากตลาดกลางประเทศไทย จำนวนทั้งหมด 120 ตัวอย่าง แบ่งเป็น พริกผง 60 ตัวอย่าง และพริกเม็ดแห้ง 60 ตัวอย่าง พบว่าเกือบทั้งหมดมีเชื้อราปะปน โดยแบ่งเป็นพริกผง 86.7% และพริกเม็ดแห้งถึง 96.7% ของตัวอย่าง โดยสัดส่วนเชื้อราคาที่พบมาดที่สุดคือ

  • เชื้อราในกลุ่ม Aspergillus section Flavi (เชื้อที่ก่อแอฟลาทอกซิน) คิดเป็น 46.6%
  • รองลงมาคือ Aspergillus section Nigri (34%), Penicillium (7.6%), และกลุ่มอื่น ๆ เช่น Aspergillus section Circumdati (2.2%) และ Rhizopus (2%)

นักวิจัยพบว่า ในกลุ่ม Flavi, 37.5% ของเชื้อจากพริกผง และ 43.8% จากพริกทั้งเม็ด สามารถผลิตอะฟลาทอกซินได้ถึง 96.9% โดยเป็นอะฟลาทอกซิน B และเพียง 3.1% ที่ผลิตได้ทั้ง B และ G และยังมีการพบสาร Ochratoxin A (OTA) ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อรา ที่สร้างโดยเชื้อราในสกุล Aspergillus และ Penicillium เป็นสารพิษที่พบได้บ่อยและมีพิษร้ายแรงที่สุดในกลุ่มโอคราทอกซิน มีฤทธิ์ทำลายไต ตับ และระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังจัดเป็นสารก่อมะเร็งในกลุ่ม 2B และอาจก่อให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดได้ด้วย

สรุปสารอันตรายที่พบในพริกแห้งจากเชื้อรา

  • อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin): เป็นสารก่อมะเร็งที่ทำลายตับ และอาจก่อให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ (ขาดสมดุลโภชนาการ) โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งอาจมีผลต่อการเจริญเติบโต
  • ochratoxin A (OTA): เป็นสารที่มีผลต่อตับ ไต, มีศักยภาพในการก่อมะเร็ง และอาจทำให้เกิดความผิดปกติในตัวอ่อนในหญิงตั้งครรภ์ (teratogenic)

สำหรับสายเผ็ดก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังถึงแหล่งที่มาของพริกที่เราทานความมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดเพราะการทานอย่างไม่ระวังจะส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวของเราโดยตรง

ที่มา Sciencedirect

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...