รีวิว OPPO Find X9 Pro ที่สุดกล้องเรือธง

ท่ามกลางสมรภูมิสมาร์ตโฟนเรือธงที่ทุกค่ายต่างงัดไม้ตายออกมาประชันกัน OPPO Find X9 Pro เรือธงประจำปี 2025 จากค่ายออปโป้ กลับสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมกล้องระดับโปร ดีไซน์ที่จับถือได้จริง และระบบ AI ที่ฉลาดล้ำจนน่าทึ่ง บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกรายละเอียดว่าทำไม Find X9 Pro ถึงเป็นม้ามืดที่ไม่ควรมองข้ามในปีนี้

ปฏิวัติการถ่ายภาพด้วย Hasselblad Master Camera System

หัวใจสำคัญของ OPPO Find X9 Pro คือชุดกล้องหลัง 3 ตัวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นกล้องที่ดีที่สุดของ OPPO ในปัจจุบัน โดยมาพร้อมดีไซน์โมดูลกล้องแบบใหม่ที่จัดวางมุมบนซ้าย ช่วยให้การจับถือถ่ายรูปสะดวกขึ้นทั้งแนวตั้งและแนวนอน ความหนาของโมดูลกล้องสะท้อนถึงฮาร์ดแวร์ภายในที่อัดแน่น แต่หากใครกังวลเรื่องความนูน การใส่เคสก็ช่วยให้ดูเรียบเนียนไปกับตัวเครื่องได้ดี

ชุดเลนส์ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP (f/1.5), กล้องมุมกว้าง 0.6x 50MP (f/2) และไฮไลต์เด็ดคือกล้องซูม 200MP Hasselblad Telephoto (f/2.1) ที่สามารถซูม 3 เท่าแบบ Optical และซูมดิจิทัลแบบไม่เสียรายละเอียดได้ถึง 13.2 เท่า รองรับการซูมสูงสุด 120 เท่า โดยมีโลโก้ ‘H’ การันตีคุณภาพจาก Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลก ผสานกับเทคโนโลยี LUMO Image Engine และ True Color Camera ที่ช่วยแยกโซนวัดแสงและสี เพื่อให้ภาพถ่ายมีความเที่ยงตรงและเป็นธรรมชาติที่สุด

คุณภาพไฟล์ภาพ: สีสันที่ใช่ สกินโทนที่ชอบ

จากการทดสอบจริง OPPO Find X9 Pro มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ให้ความคมชัดสูงและ White Balance ที่แม่นยำในทุกสภาพแสง ภาพวัตถุสีขาวก็ยังคงขาวสะอาด ไม่อมเหลืองหรืออมฟ้า สำหรับการถ่ายภาพบุคคล (Portrait) ถือเป็นจุดแข็งที่ยากจะหาใครเทียบ ด้วยโหมด HASSELBLAD PORTRAIT ที่ปรับจูนสกินโทนให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติถูกใจชาวไทย โดยไม่ต้องพึ่งแอปแต่งรูปเพิ่มเติม มีระยะเลนส์ให้เลือกครบครันตั้งแต่ 23, 35, 47, 70 ไปจนถึง 85mm โดยเฉพาะระยะ 3x ที่ให้มิติภาพสวยงามและดึงฉากหลังได้ละลายกำลังดี

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPhone 17 Pro จะเห็นความแตกต่างชัดเจน โดย iPhone มักให้โทนภาพที่ติดอุ่น ในขณะที่ OPPO จะให้โทนที่ดูเป็นธรรมชาติและขับผิวได้ดีกว่า ส่วนการถ่ายภาพย้อนแสงก็ทำได้น่าประทับใจด้วยระบบ HDR ที่เกลี่ยแสงได้สมดุล ทั้งส่วนมืดและส่วนสว่าง

พลังซูมเหนือระดับและวิดีโอระดับโปร

ด้วยเซนเซอร์ 200MP ในเลนส์ Telephoto ทำให้ Find X9 Pro รองรับการถ่ายภาพโหมด Hi-Res ที่ซูม 3 เท่าได้ไฟล์ภาพขนาดใหญ่ นำไปครอปใช้งานต่อได้โดยไม่เสียคุณภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ที่นั่งไกลแต่ต้องการภาพเจาะลึก นอกจากนี้ยังรองรับ OPPO Hasselblad Teleconverter Kit เลนส์เสริมที่ช่วยเพิ่มระยะซูม Optical เป็น 10 เท่า และซูมภาพนิ่งได้สูงสุดถึง 200 เท่า

ด้านวิดีโอก็ไม่น้อยหน้า รองรับการถ่ายสูงสุด 4K 120fps สำหรับการทำ Slow Motion คุณภาพสูง สามารถถ่าย HDR แบบ Dolby Vision และ 4K LOG เพื่อนำไปเกรดสีต่อได้ ระบบกันสั่นทำงานได้นิ่งเนียนแม้ขณะเดินถ่ายหรือซูมเปลี่ยนระยะเลนส์

AI Editor: ผู้ช่วยอัจฉริยะที่รู้ใจ

OPPO ไม่ลืมที่จะใส่ฟีเจอร์ AI เพื่อยกระดับภาพถ่ายให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ผ่านเครื่องมือ AI Editor ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น:

  • AI Portrait Glow: เติมแสงให้ใบหน้าสว่างเนียนเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในที่แสงน้อย
  • AI Recompose: จัดองค์ประกอบภาพและครอปส่วนเกินออกให้สวยเป๊ะโดยอัตโนมัติ
  • AI Eraser & Remove Reflection: ลบวัตถุที่ไม่ต้องการและเงาสะท้อนในกระจกได้เนียนตา
  • AI Perfect Shot: ฟีเจอร์เด็ดสำหรับภาพหมู่ ที่ช่วยเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดของทุกคนจากหลายช็อตมารวมเป็นภาพเดียว

ดีไซน์ใหม่ ขอบตัด จอเรียบ

ฉีกกฎดีไซน์เดิมจาก Find X8 Pro ด้วยการปรับบอดี้เป็นขอบตัดที่กระชับมือยิ่งขึ้น พร้อมหน้าจอเรียบขนาด 6.78 นิ้ว ที่แทบไม่มีขอบโค้ง ทำให้การติดฟิล์มง่ายขึ้น ขอบจอบางเฉียบเพียง 1.15 มม. ให้ความรู้สึกเต็มตาเหมือนถือเพียงแค่แผ่นกระจก หน้าจอสู้แสงได้ดีเยี่ยมและรองรับการสแกนนิ้วแบบ Ultrasonic ที่รวดเร็วและปลอดภัย

อีกหนึ่งจุดเด่นคือปุ่ม Snap Key และ Quick Button ที่ช่วยให้การเข้าถึงกล้องและฟีเจอร์ต่างๆ รวดเร็วทันใจ เพียงกดปุ่มก็พร้อมถ่ายภาพหรือบันทึกเสียงได้ทันที

ColorOS 16 และ AI Mind Space: ฉลาดและลื่นไหล

ระบบปฏิบัติการ ColorOS 16 ได้รับการปรับปรุงให้ลื่นไหลและตอบสนองไวขึ้น มาพร้อม AI Mind Space ที่ทำงานร่วมกับปุ่ม Snap Key ให้เราบันทึกภาพหน้าจอหรือเสียง แล้วให้ AI ช่วยสรุปใจความสำคัญหรือถอดเสียงเป็นข้อความภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยและสามารถสืบค้นย้อนหลังได้ง่ายผ่านการถาม-ตอบกับ AI หรือเชื่อมต่อข้อมูลกับ Google Gemini ได้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI ช่วยเขียน, AI แปลภาษาแบบเรียลไทม์ และ AI VoiceScribe ที่ช่วยถอดความจากบันทึกเสียงหรือการประชุมออนไลน์ได้ ทำให้ Find X9 Pro เป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวที่พกพาไปได้ทุกที่

ประสิทธิภาพเรือธง แบตเตอรี่อึดสะใจ

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซต MediaTek Dimensity 9500 (4nm) พร้อม RAM 16GB และความจุ 512GB มอบประสิทธิภาพที่แรงระดับแถวหน้า ผลทดสอบ Geekbench 6.5 ทำคะแนน Multi-Core ได้สูงถึง 9,540 คะแนน เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 20% และเทียบเท่า Snapdragon 8 Elite รองรับการเล่นเกมกราฟิกโหดได้สบาย แม้การทดสอบความเสถียรระยะยาวอาจมีประสิทธิภาพลดลงบ้างเมื่อเครื่องร้อนจัด

จุดที่น่าประทับใจที่สุดคือแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 7,500 mAh ในบอดี้ที่ไม่หนาเทอะทะ สามารถใช้งานหนักได้จบวันสบายๆ รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC (ชาร์จ 0-50% ใน 36 นาที) และชาร์จไร้สาย 50W AirVOOC

บทสรุปและราคา

OPPO Find X9 Pro คือการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของเรือธงซีรีส์ Find X ที่ครบเครื่องทั้งเรื่องกล้อง AI และดีไซน์ ด้วยราคาเปิดตัว 42,999 บาท (รุ่น 16GB/512GB) มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาวมุก (Pearl White) สีเทาเข้ม (Titanium Charcoal) และสีแดง (Velvet Red) ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครที่มองหาสมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปสวยจบหลังกล้อง มีลูกเล่นการซูมที่ทรงพลัง และแบตเตอรี่ที่อึดที่สุดในระดับเรือธงตอนนี้

นักเขียนตัวเล็กๆ (?) ที่โตมากับไขควงและเมนบอร์ด เพราะโดนเกณฑ์เป็นลูกมือช่างซ่อมคอม (ที่เรียกว่าพ่อ) มาตั้งแต่เด็ก ๆ โตมาเลยมาเอาดีเรื่องเทคฯแทน ชอบตามข่าวเทคฯ ใหม่ ๆ ลอง Gadget แปลก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน หูฟัง คอมพิวเตอร์ แล้วเอามาเล่าให้ฟังกัน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...