รีวิว HP ZBook Ultra G1a โน้ตบุ๊ก Workstation ที่ทั้งแรง ทั้งเบา

สำหรับมืออาชีพในสายงานวิศวกรรม, สถาปัตยกรรม, หรืองานออกแบบ 3D การมีคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงคือสิ่งจำเป็น แต่ที่ผ่านมามักต้องแลกกับเครื่องที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ทำให้การพกพาไม่สะดวก วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ HP ZBook Ultra G1a โน้ตบุ๊กที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์เดิมๆ ด้วยการรวมพลังของ Workstation เข้าไว้ในดีไซน์ที่บางเบาพกพาง่าย ตอบโจทย์คนทำงานสายโปรโดยเฉพาะ

ดีไซน์และขุมพลัง: เมื่อความเบาบางมาพร้อมความแรง

HP ZBook Ultra G1a ทลายข้อจำกัดของ Workstation แบบดั้งเดิม ด้วยตัวเครื่องที่มีความหนาเพียงประมาณ 1.85 เซนติเมตร และน้ำหนักที่ราวๆ 1.5 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบาอย่างน่าทึ่งสำหรับคอมพิวเตอร์ในระดับนี้ แม้อาจจะหนักกว่าโน้ตบุ๊กบางเบาทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

หัวใจหลักของเครื่องคือขุมพลังจาก AMD Ryzen™ AI Max+ 395 PRO (ในเครื่องรีวิวใช้รุ่น 390 PRO) ซึ่ง HP เป็นแบรนด์แรกที่นำมาใช้ พร้อมการ์ดจอ AMD Radeon™ ที่มีตัวเร่งความเร็วสำหรับงาน AI (AI accelerators) ในตัว เสริมทัพด้วย RAM สูงสุด 64GB (ปรับแต่งเพิ่มเป็น 128GB ได้) และ SSD ขนาด 1TB (เพิ่มเป็น 4TB ได้) ทำให้พร้อมสำหรับทุกโปรเจกต์หนัก

จุดเด่นที่น่าสนใจ คือสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวม ที่ทำให้ดึง RAM ของเครื่องได้สูงสุดถึง 96GB ไปเสริมประสิทธิภาพให้การ์ดจอโดยตรง ด้วยความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 8000 MT/s ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่าง CPU และ GPU เป็นไปอย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนจนประสิทธิภาพตกเมื่อต้องเรนเดอร์งานนาน ๆ เพราะมีระบบระบายความร้อน HP Vaporforce Thermals ที่ใช้เทคโนโลยี Vapor Chamber และพัดลมคู่คอยจัดการ

จอแสดงผลและประสบการณ์ใช้งาน

HP ZBook Ultra G1a มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ที่มีรีเฟรชเรต 120Hz มอบสีสันที่สดใสสมจริงและคอนทราสต์ที่ดีมาก และยังได้รับการรับรองจาก Eyesafe® ช่วยถนอมสายตาเมื่อต้องทำงานเป็นเวลานาน ที่สำคัญ ยังเป็นหน้าจอสัมผัส (Touchscreen) ช่วยให้การซูมดูรายละเอียดของงานออกแบบทำได้ง่าย และสะดวกเหมือนใช้แท็บเล็ต

ในส่วนของคีย์บอร์ด ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดี มีระยะการกดที่ค่อนข้างลึก ทำให้พิมพ์งานได้แม่นและสนุกมือ ส่วนแทร็กแพ็ดอาจต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย เนื่องจากมีความลึกเมื่อกดคลิกซ้ายหรือขวา ซึ่งอาจให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากโน้ตบุ๊กทั่วไปในช่วงแรก

การเชื่อมต่อและฟีเจอร์สำหรับมืออาชีพ

เรื่องพอร์ตเชื่อมต่อให้มาอย่างครบครันจนไม่ต้องพึ่ง Dongle เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น HDMI 2.1, USB-A, และ USB Type-C ที่เป็น Thunderbolt 4 ถึง 2 พอร์ต สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง และอีกหนึ่งพอร์ต USB-C (10Gbps) สำหรับการชาร์จไฟ นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 7 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดอีกด้วย

กล้องเว็บแคมให้ความละเอียดมา 5 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับโปรแกรม Poly Camera Pro ที่ใช้ NPU ช่วยประมวลผลฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้องถ่ายภาพ ให้เพิ่มเอฟเฟ็กต์เบลอ-เปลี่ยนพื้นหลัง, ใส่ลายน้ำ ฯลฯ และยังมีชัตเตอร์สำหรับปิดกล้องเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวได้ด้วย

บททดสอบจากสตูดิโอ 3D ตัวจริง

เพื่อให้เห็นภาพการใช้งานจริง เราได้ส่งเครื่องให้ ‘Teapot Studio’ ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ทำงานด้าน 3D และ VFX ด้วยโปรแกรม Unreal Engine เป็นหลัก ได้ทดลองใช้งาน

ทางสตูดิโอให้ความเห็นว่า HP ZBook Ultra G1a สามารถรันโปรแกรม Unreal Engine และเรนเดอร์งาน 3D ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับโน้ตบุ๊กพกพา ความสามารถนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนองานให้ลูกค้าดูและปรับแก้ได้ทันทีหน้างานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพ แม้จะเป็นงานที่เน้นการใช้ CPU หนักๆ อย่างโปรแกรม MAYA ก็ยังทำงานได้เป็นอย่างดี

ความปลอดภัยและแบตเตอรี่

สำหรับโน้ตบุ๊กที่ใช้เก็บข้อมูลสำคัญระดับองค์กร HP ได้ติดตั้งระบบ HP Wolf Security for Business ซึ่งเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ถึงซอฟต์แวร์ และยังมี HP Wolf Protect and Trace (ต้องซื้อแยก) ที่สามารถติดตาม, ล็อก หรือลบข้อมูลในเครื่องจากระยะไกลได้กรณีเครื่องสูญหาย

ในด้านแบตเตอรี่ จากการทดสอบใช้งานทั่วไป (พิมพ์งาน, เปิดเว็บ, ฟังเพลง) ตั้งแต่เวลา 11:30 น. ถึง 17:00 น. แบตเตอรี่ลดจาก 100% เหลือประมาณ 6% ซึ่งเท่ากับว่า สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเกือบ 6 ชั่วโมง ถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับโน้ตบุ๊กสเปกแรงระดับนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเรนเดอร์งานหนัก จำเป็นต้องเสียบปลั๊กเพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง HP ได้ให้ชุดชาร์จกำลังไฟสูง 140W มาในกล่อง แต่มีข้อควรระวังคือเครื่องอาจไม่รองรับหัวชาร์จอื่นที่มีกำลังไฟต่ำกว่า เช่น หัวชาร์จ 100W PD ทั่วไป

สรุปแล้ว HP ZBook Ultra G1a เหมาะจะเป็นโน้ตบุ๊กทำงานแค่ไหน

HP ZBook Ultra G1a คือนิยามใหม่ของ Mobile Workstation ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ Hybrid อย่างแท้จริง เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการพลังการประมวลผลขั้นสูงสำหรับงาน AI, กราฟิก 3D, หรืองานวิศวกรรม โดยไม่ต้องการถูกจำกัดอยู่แค่บนโต๊ะทำงานอีกต่อไป จน HP เคลมว่าเป็นโน้ตบุ๊กจอ 14 นิ้วที่แรงที่สุดในโลกเลยทีเดียว

สำหรับราคาจำหน่ายของเครื่องที่รีวิวอยู่ที่ประมาณเกือบหนึ่งแสนบาท ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปปรับแต่งสเปกเพิ่มเติมได้ตามความต้องการบนเว็บไซต์ของ HP และสำหรับใครที่มองหา Workstation ตั้งโต๊ะที่ประหยัดพื้นที่ HP ก็มีรุ่น HP Z2 Mini G1a ที่ใช้ CPU ตัวเดียวกันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน