เปิดตัว vivo X200 FE มือถือรุ่นรองท็อป ขนาดเล็ก สเปกแรง ให้กล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS และใช้ชิปเซตเรือธง MediaTek Dimensity 9300+ และแบตเตอรี่ 6500 mAh ในราคา 24,999 บาท
จุดเด่นที่สุดของ vivo X200 FE คือเรื่องของความเบาและบาง โดย vivo X200 FE ได้ให้หน้าจอแบบแบน ความละเอียด 1.5K LTPO AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz และอัตราการกะพริบของหน้าจอ (PWM Dimming) ที่ 2160Hz และตัวเครื่องบาง 7.99 มม. น้ำหนัก 186 กรัม ในขณะที่ยังใส่แบตเตอรี่มา 6500 mAh และชาร์จเร็ว 90W ด้วย และยังกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 และ IP69 เช่นกัน
นอกจากนั้น vivo X200 FE ก็ได้ให้กล้องหลัง 3 ตัวที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX921 พร้อมการกันสั่น OIS, กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก 8 ล้านพิกเซล กว้าง 120 องศา และกล้องถ่ายภาพซูมแบบ Periscope 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ IMX882 รองรับการซูม 3 เท่า โดยตัวเลนส์เป็นเลนส์แบบปริซึมทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่ทำให้ใช้พื้นที่ในตัวเลนส์น้อยลงกว่าเดิม ซึ่งเพราะเป็นกล้อง Periscope เลยทำให้ใช้ ‘โหมดเวที’ ในการถ่ายภาพซูมเวทีได้ด้วย และยังได้ให้กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มีระบบออโตโฟกัสด้วย รวมไปถึง ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Aura Light หรือไฟวงแหวนแบบใน vivo V Series เพื่อช่วยในการถ่ายภาพบุคคลด้วย
เรื่องการถ่ายภาพยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้ใช้เพิ่มด้วย ทั้งโหมดถ่ายภาพแนวสตรีท และสไตล์ฟิล์มวินเทจ อีก 3 แบบไว้ให้ถ่ายภาพในสไตล์ที่ต่างออกไปได้ และเรื่องของ AI ในกล้องถ่ายภาพก็ได้ให้มาเพิ่มด้วยเหมือนกัน โดยได้เพิ่มทั้ง AI Cut Out ในการดึงวัตถุออกมาจากภาพ, AI Image Expander ในการขยายภาพออกมาให้กว้างขึ้น, AI Erase ที่ตอนนี้สามารถใช้ AI ลบแสงสะท้อนในภาพได้แล้ว และล่าสุด ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ ‘AI 4 ฤดู’ (AI Four Season Portrait) ที่เป็นฟีเจอร์ในการเปลี่ยนสไตล์ของภาพที่เราถ่ายมา ให้ออกมาดูเหมือนกับฤดูทั้ง 4 ได้ด้วยการใช้ AI เปลี่ยนภาพได้ (แบบในรอมจีน)
vivo X200 FE ใช้ชิปเซต MediaTek Dimensity 9300+ แรมขนาด 12GB LPDDR5X และพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB แบบ UFS 3.1 (ขายแค่ความจุเดียวเท่านั้น) โดยวางจำหน่ายในไทยที่ราคา 24,999 บาท (ติดโปรเครือข่ายเริ่ม 18,399 บาท) และจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป