เปิดตัว POCO F8 Series ตัวท็อปใช้ชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อมระบบเสียงจาก Bose เริ่ม 17,990 บาท

POCO เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธง F8 Ultra และ F8 Pro อย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นชิปเซต Snapdragon 8 Elite Gen 5 ในรุ่น Ultra และระบบเสียง Sound by Bose เตรียมวางจำหน่ายในไทย 26 พฤศจิกายนนี้

POCO F8 Ultra

POCO F8 Ultra เป็นรุ่นเรือธงท็อปสุดของซีรีส์ โดยมาพร้อมการใช้ชิปเซตคู่ คือ Snapdragon 8 Elite Gen 5 และชิปเซต VisionBoost D8 เพื่อรีดประสิทธิภาพการประมวลผลและการแสดงผลสูงสุด โดย POCO กล่าวว่าสามารถทำคะแนนทดสอบบน AnTuTu ได้สูงกว่า 3.9 ล้านคะแนน รองรับการเล่นเกมที่เฟรมเรต 120 FPS และความละเอียด 1.5K ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเทคโนโลยี AI Super Resolution ที่ช่วยปรับปรุงภาพในเกมให้คมชัดขึ้น โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ

ด้านระบบการจัดการพลังงานและความร้อน รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี LiquidCool ที่ใช้ระบบ IceLoop แบบสองชั้น เพื่อระบายความร้อนจากชิปเซตและโมดูลกล้อง ช่วยให้เครื่องทำงานได้เสถียรแม้ใช้งานหนัก ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 6,500mAh ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในตระกูล F Series รองรับระบบชาร์จไว 100W HyperCharge ที่ทางแบรนด์เคลมว่าสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลา 38 นาที และยังรองรับการชาร์จไร้สาย 50W Wireless HyperCharge เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ในส่วนของการแสดงผลและระบบเสียง หน้าจอของ F8 Ultra เป็นแบบ POCO HyperRGB ขนาด 6.9 นิ้ว ที่ใช้วัสดุเรืองแสง M10 ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและให้ความสว่างสูง พร้อมขอบจอที่บางเฉียบ ด้านระบบเสียง ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Bose ในรูปแบบลำโพง 3 ตัว (สเตออริโอแบบ 2.1 Ch) โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งโปรไฟล์เสียงได้ 2 แบบ คือ ‘Dynamic’ สำหรับเสียงเบสหนัก และ ‘Balanced’ สำหรับเสียงที่สมดุล

สำหรับกล้องถ่ายภาพ มาพร้อมเซนเซอร์กล้องถ่ายภาพหลัก Light Fusion 950 ความละเอียด 50MP ที่มีระบบกันสั่น OIS และเลนส์เทเลโฟโต้แบบ Periscope 5x ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ใส่เลนส์ระยะไกลแบบนี้เข้ามา รองรับการซูมดิจิทัลสูงสุด 20 เท่า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI ต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพและวิดีโอ เช่น การถ่ายภาพเคลื่อนไหว (Motion Capture) และโหมด Super Moon รวมถึงกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่ปรับมุมมองอัตโนมัติ

POCO F8 Ultra ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 3 ที่เน้นการเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์และการทำงานของ AI เช่น ฟีเจอร์ AI Writing และ AI Agent ที่ขับเคลื่อนโดย Google Gemini รองรับการใช้งาน eSIM และเทคโนโลยี Xiaomi Astral Communication ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณโทรศัพท์และ GPS ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี คือ Denim Blue และ Black โดยมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ด้วย

POCO F8 Pro

POCO F8 Pro เป็นสมาร์ตโฟนที่เน้นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและดีไซน์ โดยมาพร้อมชิปเซต Snapdragon 8 Elite ที่เป็นชิปเซตเรือธงของปีที่แล้ว โดยยังเหมาะกับการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม ทำงานคู่กับเทคโนโลยี WildBoost Optimization ที่ช่วยจัดการทรัพยากรเครื่อง ด้านแบตเตอรี่ ให้ความจุมาที่ 6,210mAh รองรับชาร์จไว 100W ที่ POCO เคลมว่าชาร์จเต็มได้ใน 37 นาที พร้อมระบบระบายความร้อน IceLoop แบบ 3 มิติ เพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องขณะใช้งาน

จุดเด่นด้านการออกแบบของรุ่น Pro อยู่ที่ฝาหลัง ซึ่งทำจากกระจกชิ้นเดียว แกะสลักด้วยเทคโนโลยี CNC ให้ผิวสัมผัสแบบกึ่งเงากึ่งด้าน (Glossy-Matte) และขอบเครื่องโลหะที่มีความโค้งมน หน้าจอมีขนาด 6.59 นิ้ว เพื่อการจับถือที่ถนัดมือ โดยตัวเครื่องมีน้ำหนัก 199 กรัม และรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 เช่นเดียวกัน

ด้านการถ่ายภาพ รุ่นนี้ถือเป็นครั้งแรกของตระกูล Pro ที่มีกล้องเทเลโฟโต้โดยเฉพาะ ความละเอียด 50MP รองรับการซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า และกล้องหลักความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Light Fusion 800 พร้อมระบบกันสั่น OIS รวมถึงมีฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบไดนามิกและการใช้ฟิลเตอร์ฟิล์มต่าง ๆ ด้วย

ในด้านฟีเจอร์อื่น ๆ POCO F8 Pro ใช้หน้าจอ POCO HyperRGB ความละเอียด 2K ที่ประหยัดพลังงาน และมาพร้อมระบบเสียง Sound by Bose ด้วย โดย POCO F8 Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 3, มี eSIM และเทคโนโลยีการสื่อสารแบบเดียวกับรุ่น Ultra ด้วย

ราคาและการวางจำหน่ายในไทย

POCO F8 Series เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในราคาพิเศษตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น. ถึง 18 ธันวาคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, TikTok Shop และ mi.com โดยมีรายละเอียดดังนี้:

• POCO F8 Ultra: มีสี Denim Blue และ Black
  • รุ่น 12GB+256GB ราคาพิเศษ 23,990 บาท (ปกติ 24,990 บาท)
  • รุ่น 16GB+512GB ราคาพิเศษ 25,990 บาท (ปกติ 26,990 บาท)
• POCO F8 Pro: มีสี Black, Titanium Silver และ Blue
  • รุ่น 12GB+256GB ราคาพิเศษ 16,990 บาท (ปกติ 17,990 บาท)
  • รุ่น 12GB+512GB ราคาพิเศษ 18,990 บาท (ปกติ 19,990 บาท)

โดยใครที่สั่งซื้อในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับของสมนาคุณต่าง ๆ เช่น จอมอนิเตอร์ Xiaomi Gaming Monitor G24i มูลค่า 3,990 บาท (เฉพาะรุ่น Ultra), ลำโพง Xiaomi Sound Outdoor มูลค่า 1,790 บาท (เฉพาะรุ่น Pro) รวมถึงประกันตัวเครื่อง 2 ปี, ประกันหน้าจอแตก (เปลี่ยน 1 ครั้ง ภายใน 6 เดือน), ใช้งาน YouTube Premium ฟรี, ใช้งาน Google One 100GB ฟรี และใช้งาน Spotify ฟรีตามเงื่อนไขที่กำหนด