Samsung เปิดตัว OneUI 7 ที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาและประสบการณ์การใช้งานครั้งใหญ่ และทำให้กลมกล่อมขึ้น ลื่นขึ้นด้วย OneUI 8 แต่ยังไม่หมดเท่านี้ ในช่วงต้นปีหน้าเราจะได้ไปต่อกันกับ OneUI 8.5 ครับ
ปัจจุบัน Samsung เริ่มเปิดทดสอบ OneUI 8.5 beta เป็นที่เรียบร้อยกับ Galaxy S25 ซีรีส์ในบางประเทศเป็นกลุ่มแรก ได้แก่ เยอรมนี อินเดีย เกาหลี โปแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับผู้ใช้ Galaxy สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมได้ผ่านแอป Samsung Members ส่วน OneUI 8.5 ตัวเต็มนั้นคาดว่าจะเปิดให้อัปเดตพร้อมกับการเปิดตัว Galaxy S26 ซีรีส์ที่จะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า
OneUI 8.5 ยังพัฒนาบนพื้นฐานของ Android 16 โดยอุปกรณ์ที่จะได้รับอัปเดต OneUI 8.5 ก็คืออุปกรณ์ที่ได้รับอัปเดต OneUI 8 ซึ่งมีทั้งหมดดังนี้
OneUI 8.5 beta เป็นซอฟต์แวร์ที่เน้นยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟน Galaxy ให้ลื่นไหล และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยการพัฒนาในเวอร์ชันนี้เน้นไปที่การผสานเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ Galaxy ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในด้านการสร้างและจัดการคอนเทนต์ OneUI 8.5 ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ Photo Assist ให้รองรับการแก้ไขภาพแบบต่อเนื่อง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพหลายขั้นตอนได้โดยไม่ต้องบันทึกทุกครั้ง และยังสามารถย้อนดูประวัติการแก้ไขเพื่อเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมที่สุดได้ ส่งผลให้กระบวนการแต่งภาพมีความยืดหยุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำในการสร้างสรรค์ผลงาน
ด้านการเชื่อมต่อและการแชร์ข้อมูล Samsung ได้เพิ่มความสามารถของ Quick Share ให้ฉลาดขึ้น ระบบสามารถจดจำบุคคลที่ปรากฏในภาพและแนะนำผู้รับที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ช่วยลดขั้นตอนในการเลือกผู้รับและทำให้การแชร์เป็นไปอย่างราบรื่น
OneUI 8.5 ยังให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ในระบบนิเวศของ Samsung โดยฟีเจอร์ Storage Share ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์ Galaxy เครื่องอื่น เช่น แท็บเล็ตหรือทีวี ได้โดยตรงผ่านแอป My Files โดยไม่จำเป็นต้องคัดลอกหรือย้ายไฟล์ไปมา ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความต่อเนื่องในการทำงานข้ามอุปกรณ์
ในด้านความปลอดภัย Samsung ได้ยกระดับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจริงจังด้วยฟีเจอร์ Theft Protection ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับอุปกรณ์สูญหายหรือถูกโจรกรรม รวมถึงระบบ Failed Authentication Lock ที่จะล็อกอุปกรณ์อัตโนมัติเมื่อมีการพยายามปลดล็อกเครื่องผิดหลายครั้งและยังมีการอัปเกรดระบบอย่าง Identity Check เพื่อป้องกันการเข้าถึงการตั้งค่าที่สำคัญภายในเครื่อง ลดความเสี่ยงจากการถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่มา Sammobile, Samsung Newsroom





