iPhone 17 ทั้งซีรีส์ (รวม iPhone Air) มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ที่ทำให้สามารถถนอมสายตาได้มากขึ้น โดยสามารถเลือกปรับการลดแสงสว่างของหน้าจอจากแบบ PWM Dimming ไปเป็น DC Dimming ได้ เพื่อลดปัญหาการกะพริบของหน้าจอที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานบางกลุ่มได้
ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าว จะสามารถเข้าไปเปิดได้ที่เมนูการตั้งค่า -> การช่วยการเข้าถึง -> จอภาพและขนาดข้อความ -> ปรับจอแสดงผลให้นุ่มนวล (PWM) ซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกปิดไว้ (หมายถึงใช้งาน PWM Dimming) แต่เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ ระบบจะเปลี่ยนไปใช้การลดแสงสว่างหน้าจอแบบ DC Dimming แทน ซึ่งจะช่วยให้สบายตามากขึ้น แต่ก็อาจต้องแลกมากับความแม่นยำของสีที่อาจเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
โดยเทคโนโลยีการลดแสงหน้าจอทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกัน โดย PWM Dimming (Pulse Width Modulation) ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนทั่วไป จะทำงานโดยการเปิดและปิดไฟหน้าจอด้วยความเร็วสูงมาก จนตาเปล่าของเรามองไม่เห็น ซึ่งแม้จะให้สีที่ตรงกว่า แต่การกะพริบด้วยความถี่ต่ำ อาจทำให้คนที่ไวต่อแสง เกิดอาการปวดตา หรือปวดศีรษะได้ ในขณะที่ DC Dimming จะลดแสงสว่างด้วยการปรับลดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังหน้าจอโดยตรง ทำให้ไม่มีการกะพริบ แต่ก็อาจส่งผลต่อความตรงของสีบนหน้าจอ OLED ได้เมื่อปรับความสว่างต่ำ ๆ
ปัจจุบัน Apple และ Samsung ใช้หน้าจอที่มีอัตราการกะพริบ (PWM) อยู่ที่ 480Hz ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนฝั่งจีนหลายราย เช่น OPPO, vivo หรือ Xiaomi ที่หันไปใช้หน้าจอแบบ High-Frequency PWM (ความถี่ 2160Hz ขึ้นไป) กันอย่างแพร่หลายแล้ว แม้แต่ในรุ่นระดับกลาง เพื่อลดผลกระทบต่อสายตา ทำให้การกะพริบแบบ DC Dimming นั้นเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ iPhone 17 Series นั้นแสดงผลภาพได้ถนอมสายตาได้มากกว่าเดิมได้นั่นเอง