
Huawei เปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่กับ Huawei Mate 80 ซีรีส์อย่างเป็นทางการ มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ อัปเกรดกล้อง ประสิทธิภาพของชิปประมวลผลที่สูงขึ้น
Huawei Mate 80 ซีรีส์ มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Huawei Mate 80, Mate 80 Pro, Mate 80 Pro Max และ Mate RS Ultimate Design ที่ด้านหลังของเครื่องนั้นมีกล้องวงกลมขนาดใหญ่ พร้อมดีไซน์วงกลมอีกวงซึ่งสื่อถึงตำแหน่งของชาร์จไร้สาย (คอยล์)
หน้าจอของ Huawei Mate 80 ซีรีส์ใช้กระจก 2.5D โดย Huawei Mate 80 และ 80 Pro มีหน้าขอขนาดใหญ่ 6.75 นิ้ว ส่วน Mate 80 Pro Max และ Mate 80 RS Ultimate Design มีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.9 นิ้ว ความสว่างหน้าจอสูงสุด (Peak Brightness) 8,000 nits นับเป็นสมาร์ตโฟนที่มีความสว่างหน้าจอสูงที่สุดเท่าที่เคยเปิดตัวมา ทั้งหมดมีรีเฟรชเรต 1-120Hz LTPO

Huawei Mate 80 ขับเคลื่อนด้วยชิป Kirin 9020, Huawei Mate 80 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิป Kirin 9030 ส่วน Huawei Mate 80 Pro Max และ Huawei Mate RS Ultimate Design ขับเคลื่อนด้วยชิป Kirin 9030 Pro ซึ่งนับเป็นรุ่นท็อปสุดของชิปซีรีส์นี้ โดยรุ่น Mate RS Ultimate Design มีตัวเลือกแรมสูงถึง 20GB มากที่สุดเท่าที่ Huawei เคยใส่ในสมาร์ตโฟนมา

ในส่วนของกล้องหลังนั้น แต่ละรุ่นจะได้กล้องคนละสเปกกันไป
กล้องหน้าของ Huawei Mate 80 ซีรีส์ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ ToF สำหรับการสแกนใบหน้า 3D ด้านซอฟต์แวร์การถ่ายภาพเป็น XMAGE หรืออัลกอริทึมที่ Huawei พัฒนาขึ้นมาเอง สำหรับการประมวลผลและเพิ่มประสิทธิภาพของภาพถ่าย

ด้านแบตเตอรี่ Huawei Mate 80 และ Mate 80 Pro มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5750mAh ส่วนรุ่น Pro Max และ Ultimate Design มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับชาร์จไว 100W, ชาร์จไร้สาย 80W และรองรับการชาร์จให้อุปกรณ์อื่นด้วยกำลังไฟสูงสุด 20W
Huawei Mate 80
Huawei Mate 80 Pro
Huawei Mate 80 Pro Max
Huawei Mate RS Ultimate Design





