
ความกังวลเรื่องสุขภาพแบตเตอรี่ กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้งานหลายคน หนึ่งในคำเตือนสุดคลาสสิกที่ได้ยินกันมาอย่างยาวนานคือ “อย่าเล่นมือถือขณะชาร์จ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว” หรือถึงขั้นระเบิดได้ แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่?
HTX Studio ได้ทำการทดลองสุดทรหดโดยใช้สมาร์ตโฟนจำนวน 24 เครื่อง ทดสอบต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 193 วัน หรือกว่า 2,000 ชั่วโมง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประหลาดใจและน่าจะขัดกับความเชื่อของใครหลาย ๆ คนด้วยเหมือนกัน

การทดลองพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ใช้งานขณะชาร์จ เช่น เล่นเกมหรือดูวิดีโอไปพร้อมกับเสียบสายชาร์จ ไม่ได้มีอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่เลวร้ายไปกว่าการชาร์จแบบปกติ ในทางตรงกันข้าม เมื่อวัดค่าความจุแบตเตอรี่ที่ลดลง ก็พบว่ากลุ่มที่ใช้งานไปด้วยชาร์จไปด้วย มีแบตเตอรี่ใกล้เคียงกับกลุ่มที่ชาร์จปกติด้วยซ้ำ (เมื่อเทียบไซเคิลเท่ากัน)


สาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่ Lithium-Ion เสื่อม ไม่ใช่เรื่องการใช้งานขณะชาร์จ แต่คือจำนวนรอบการชาร์จ หรือ Cycle Count ครับ การที่เราเล่นมือถือขณะชาร์จ จะทำให้เครื่องชาร์จไฟเข้าได้ช้าลงและมีความร้อนสะสม จนระบบต้องตัดการทำงานบางส่วนเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้จำนวนรอบการชาร์จที่เกิดขึ้นจริงน้อยกว่าการใช้งานปกติที่ชาร์จเร็วและใช้เร็ว
สิ่งที่ทำร้ายแบตเตอรี่จริง ๆ คือความร้อนและการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง ทาง HTX Studio ได้ทำการทดสอบในสภาวะอุณหภูมิสูง (35-45 องศาเซลเซียส) ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ส่วนการทดสอบชาร์จในที่เย็นนั้นล้มเหลวเพราะมีเครื่องหนึ่งมีปัญหา

แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องพฤติกรรมการชาร์จ การทดลองยังพบว่าการเลี้ยงแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับสูงตลอดเวลา เช่น การวางบนแท่นชาร์จไร้สายบ่อยๆ หรือชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 80-90% ช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้ดีที่สุด โดยมีความเสื่อมเพียง 3.9% เท่านั้น ในขณะที่การใช้จนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จใหม่กลับทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวมากที่สุด

บทสรุปคือ เราไม่ต้องกังวลเรื่องของการชาร์จไปใช้งานไปมากจนเกินไป แต่สิ่งที่ต้องระวังคือความร้อนที่เกิดขึ้นขณะชาร์จซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วได้กว่าปกติครับ
ที่มา HTX Studio





