ตลาดสมาร์ตโฟนเดือนกรกฎาคม 2568 ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในเรื่องกล้องถ่ายภาพ ที่แต่ละแบรนด์ต่างชูจุดเด่นทั้งเซนเซอร์ความละเอียดสูง, เลนส์ซูมคุณภาพ และพลัง AI เข้ามาช่วยยกระดับการถ่ายภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็แข่งขันกันทำสมาร์ตโฟนที่มีเรตราคาถูก คุ้มค่าเข้ามาแข่งขันกันด้วย บทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 สมาร์ตโฟนที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสุด ๆ ในราคาที่ไม่แรงเกินไป
เริ่มจาก vivo X200 FE สมาร์ตโฟนกล้องโหด ไซส์เล็ก รุ่นรองท็อป ที่เน้นเรื่องความบาง เบา และขนาดที่เล็ก โดยมาพร้อมชุดกล้องหลัง 3 ตัวที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS เป็นกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX921 กันสั่น OIS, กล้องมุมกว้างมาก 8 ล้านพิกเซล แล้วยังได้ให้กล้องถ่ายภาพซูม Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ IMX882 ที่ถ่ายด้วยระยะซูม 3 เท่า ซึ่งใช้เลนส์ปริซึมทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในตัวเครื่อง ทำให้สามารถใช้งาน ‘โหมดเวที’ สำหรับการถ่ายภาพระยะไกลได้ ขณะที่กล้องหน้าให้ความละเอียดมาถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัสและไฟวงแหวน Aura Light ด้วย
ด้านซอฟต์แวร์ vivo ได้เพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาเสริมความสามารถในการถ่ายภาพหลายด้าน ทั้ง AI Cut Out สำหรับตัดวัตถุออกจากพื้นหลัง, AI Image Expander เพื่อขยายภาพให้กว้างขึ้น แล้วใช้ AI มาเติมส่วนที่ขาด, AI Erase ที่สามารถลบแสงสะท้อนในภาพได้ และยังได้เพิ่มฟีเจอร์ล่าสุดอย่าง ‘AI 4 ฤดู’ (AI Four Season Portrait) ที่ใช้ AI ม่าเปลี่ยนบรรยากาศของภาพให้เป็นไปตามฤดูกาลทั้ง 4 แบบเดียวกับที่มีในซอฟต์แวร์เวอร์ชันจีนได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพแนวสตรีทและสไตล์ฟิล์มวินเทจให้เลือกใช้งานแบบใน vivo X200 Series ด้วย
เรียกว่า vivo X200 FE เป็นรุ่นที่เน้นเรื่องของกล้องถ่ายภาพค่อนข้างสูงมาก ๆ โดยเก็บความดีงามของ vivo X Series และ vivo V Series เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียวเลย โดย vivo X200 FE วางขายในไทยที่ราคา 24,999 บาท โดยขายแค่ความจุ 12GB/512GB เท่านั้น
ต่อด้วย OPPO Reno14 5G ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นกลางรอบปลายปีของ OPPO โดยยังออกมา 3 รุ่นเหมือนเดิม แต่ว่า โดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว OPPO Reno14 รุ่นกลาง ให้กล้องถ่ายภาพมาดีมาก ๆ ในเรตราคานี้ โดยได้ให้กล้องถ่ายภาพซูม 3.5 เท่า ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพหลัก 50 ล้านพิกเซล และกล้องมุมกว้างมาก 8 ล้านพิกเซล แถมยังมีเทคโนโลยี AI Flash Photography ที่ใช้แฟลช 3 ตัว ซึ่ง OPPO เคลมว่าจะช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลมีความสวยงาม คมชัด และเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เหมาะกับชาว Gen Z ที่ชอบถ่ายภาพแบบอัดแฟลชแรง ๆ ให้เข้าหน้าสุด ๆ ได้ด้วย
ในส่วนของ AI นั้น OPPO ได้ใส่ฟีเจอร์เข้ามาให้ถ่ายภาพได้สะดวกมากขึ้นด้วย เช่น AI ปรับเฟรมภาพ เพื่อช่วยจัดองค์ประกอบของรูปให้โดยอัตโนมัติ, AI ปรับหน้าเป๊ะ ที่ช่วยคัดเลือกช็อตที่ดีที่สุดของใบหน้า และ ยางลบ AI 2.0 ซึ่งสามารถลบคนหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้ง่าย ๆ และยังได้ให้ฟีเจอร์ AI อื่น ๆ ให้ได้ใช้กัน เหมือนกับใน Reno12 และ Reno13 Series ด้วย
รวม ๆ แล้ว สำหรับใครที่อยากได้มือถือกล้องสวย ๆ และราคาดี ในช่วงที่กำลังเขียนอยู่นี้ OPPO Reno14 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ โดย OPPO Reno14 5G วางขายอยู่ 2 ความจุ คือราคา 16,999 บาท (สำหรับรุ่น 12/256GB) และ 18,999 บาท (รุ่น 12/512GB)
แม้ Xiaomi 14T Pro จะเป็นสมาร์ตโฟนเน้นกล้องรุ่นรองท็อปที่ขายมานานแล้ว แต่ Xiaomi 14T Pro ยังเป็นมือถือเน้นกกล้องที่ชาว Leica ยังชอบกันอยู่ แล้วยังได้ใช้เซนเซอร์กล้องถ่ายภาพ Light Fusion 900 ตัวเดียวกับ Xiaomi 14 มาใช้เป็นกล้องหลัก แล้วยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพซูมระยะ 60mm 50 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก 12 ล้านพิกเซลด้วย เลยทำให้เหมาะจะเอาไปถ่ายภาพได้หลายระยะด้วย ตั้งแต่ 15mm, 23mm, 46mm, 60mm ไปจนถึง 120mm ซึ่งจะเอาไว้ใช้ถ่ายภาพวิว แนววสตรีท หรือถ่ายภาพคนก็เหมาะไปทั้งหมดเลย
แถม Xiaomi 14T Pro ยังมีสไตล์สีแบบ Leica ให้เลือก 2 แบบคือ Leica Authentic ที่ให้คอนทราสต์สูง เหมาะกับภาพแนวสตรีทหรือภาพที่ต้องการอารมณ์แบบฟิล์ม และ Leica Vibrant ที่ให้สีสันอิ่มตัว เหมาะกับการถ่ายภาพทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่ง Xiaomi 14T Pro ก็ยังมีโทนภาพแบบ Leica ให้ได้ถ่ายกันด้วย
ซึ่ง Xiaomi 14T Pro ตอนนี้วางขายใน mi.com ที่ราคา 19,990 บาท (ความจุ 12GB + 512GB) และ 22,990 (ความจุ 12GB + 1TB) ซึ่งด้วยความที่ว่า Xiaomi 14T Pro กำลังจะออกรุ่นใหม่ (คาดว่าจะเป็น Xiaomi 15T Series) ทำให้ Xiaomi 14T Pro ที่กำลังจะตกรุ่น จะได้ราคาที่ดีมากรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ของใหม่ที่ลงสนามมาอีกรุ่น อย่าง HONOR 400 Pro ได้ให้กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ในกล้องซูมของ Magic7 Pro เลย แถมยังมีกล้องถ่ายภาพซูม Telephoto 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX856 ที่ระยะ 3 เท่า และซูมดิจิทัลสูงสุด 50 เท่า พร้อมกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล ซึ่งนอกจากจะครบระยะแล้ว ความละเอียดกล้องหลักยังเยอะมาก เหมาะถ่ายภาพที่เน้นเก็บรายละเอียดเยอะ ๆ ได้ด้วย
ด้านซอฟต์แวร์ HONOR ยังได้ร่วมมือกับ Harcourt Studio จากฝรั่งเศส ในการปรับแต่งโทนสีภาพบุคคล 3 สไตล์ และยังเพิ่มฟิลเตอร์จำลองฟิล์มอีก 6 แบบ โดยใช้ AI HONOR Image Engine ช่วยวิเคราะห์และปรับสีให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Super Zoom ช่วยเพิ่มความคมชัดให้ภาพที่ซูมตั้งแต่ 15 เท่าขึ้นไป และ AI Enhanced Portrait (ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Pro) ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดให้ภาพถ่ายบุคคล คล้ายกับที่พบในรุ่น Magic7 Pro ได้ด้วย แถมยังมีฟีเจอร์ AI Image to Video ให้เปลี่ยนภาพให้เป็นวิดีโอได้ด้วย
HONOR 400 Pro วางจำหน่ายในไทยแค่รุ่นความจุ 12GB + 512GB ที่ราคา 19,990 บาท ถือเป็นเรตราคาที่โอเคมาก ๆ แถมยังคุ้มมากด้วย เพราะนอกจากจะมีกล้องถ่ายภาพที่ดีมาก ๆ แล้ว ยังได้ให้สเปกในเครื่องเป็นชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งเป็นชิปรุ่นท็อปสุดของปีที่แล้วอีกต่างหาก เป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ iPhone 16 จะเป็น iPhone รุ่นพื้นฐาน ที่ไม่มีเลนส์ซูม Telephoto โดยเฉพาะเป็นของตัวเอง แต่ก็ได้ปรับปรุงการถ่ายภาพมาพอสมควร โดยมาพร้อมกล้องหลัก Fusion ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูง 24MP และ 48MP ซึ่งทำให้ยังสามารถถ่ายภาพซูมที่ครอประยะ 2 เท่า และไม่เสียรายละเอียดมากนักได้อยู่ และยังได้ให้กล้องมุมกว้างมาก 12 ล้านพิกเซล ที่มีมุมมองกว้าง 120 องศามาอยู่
นอกจากนั้น iPhone 16 ยังให้ฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพมาครบที่ Apple เปิดตัวมา ทั้ง Photonic Engine และ Deep Fusion, Smart HDR 5 และโหมดถ่ายภาพบุคคลต่าง ๆ แถมยังได้ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Camera Control มาครบถ้วนด้วย และด้วยว่า iPhone อยู่ใกล้ช่วงที่จะออกรุ่นใหม่ ทำให้ราคาของ iPhone 16 ยังลดอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ราคาอาจจะถูกลงกว่าเดิมได้อีก
โดย iPhone 16 วางจำหน่ายในไทยที่ราคา 29,900 บาท (128GB), 33,900 บาท (256GB) และ 41,900 บาท (512GB) ซึ่งถ้าซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงกว่านี้ได้อีก
สรุปแล้ว ตลาดสมาร์ตโฟนในเดือนนี้ มีตัวเลือกกล้องที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสายซูมไกล, สายถ่ายภาพบุคคล, หรือสายชอบโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และยังมีรุ่นที่มีขนาดเล็ก เหมาะมือกับแต่ละคนอีกด้วย ใครที่สนใจรุ่นไหน ลองอ่านดูแล้วรู้สึกว่ารุ่นนี้เหมาะกับเรา ก็สามารถเลือกซื้อกันได้ตามความต้องการ และงบประมาณที่วางกันไวไ้ด้เลย