
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยเอกสารภายใน Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram พบมีรายได้มหาศาลจากโฆษณาหลอกลวงจากจีนสูงถึงปีละ 3,000 ล้านเหรียญ
จีนถือเป็นอีกตลาดสำคัญของ Meta มีสัดส่วนรายได้ราว 11% จากรายได้รวมทั้งหมด ที่น่าสนใจคือรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากบริษัทใหญ่ อย่าง Shein หรือ Temu แต่เกิดจากธุรกิจจีนขนาดเล็กและกลางที่ทำงานลงโฆษฯาผ่านเอเจนซี

แม้จีนจะห้ามประชาชนใช้แพลตฟอร์มของ Meta แต่รัฐบาลกลับอนุญาตให้บริษัทจีนลงโฆษณาไปยังผู้บริโภคต่างชาติ ส่งผลให้ในปี 2024 Meta มีรายได้จากจีนกว่า 18,000 ล้านเหรียญ แต่รายได้ประมาณ 19% หรือกว่า 3,000 ล้านเหรียญ มาจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การพนันผิดกฎหมาย และเนื้อหาต้องห้าม
เอกสารภายในซึ่งจัดทำโดยหลายฝ่ายตลอด 4 ปี ชี้ให้เห็นว่า Meta รู้ดีว่าจีนเป็นแหล่งกำเนิดโฆษณาหลอกลวง คิดเป็นหนึ่งในสี่ของทั้งหมดบนแพลตฟอร์มทั่วโลก สร้างความเสียหายให้ผู้ใช้ในหลายประเทศ บริษัทจึงตั้งทีมต่อต้านการฉ้อโกงเฉพาะกิจ และใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น ทำให้สัดส่วนโฆษณาที่มีปัญหาลดลงจาก 19% เหลือ 9% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
ในประเทศจีน Meta ขายโฆษณาผ่านเอเจนซีโฆษณารายใหญ่ 11 แห่งที่เรียกว่า “ตัวแทนจำหน่ายระดับบน” ทำหน้าที่ทั้งขายโฆษณาโดยตรงและดึงเอเจนซี่รายย่อยเข้ามาซื้อโฆษณาบน Facebook และ Instagram ผ่านระบบของตน โครงสร้างหลายชั้นนี้ทำให้เกิดตัวกลางจำนวนมากและขาดความโปร่งใส
ระบบดังกล่าวเอื้อต่อการลงโฆษณาหลอกลวง การพนันผิดกฎหมาย และสินค้าต้องห้าม โดยผู้ลงโฆษณาสามารถใช้บัญชีปลอมหรือบัญชีที่ถูกขโมย รวมถึงเครื่องมือปกปิดตัวตนและ AI สร้างเอกสารปลอมเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของ Meta
ยิ่งไปกว่านั้น Meta ยังให้สิทธิพิเศษแก่เอเจนซีระดับบน เช่น ไม่ลบโฆษณาทันทีเมื่อระบบอัตโนมัติพบการละเมิด แต่ต้องรอการตรวจสอบซ้ำโดยมนุษย์ ทำให้โฆษณาที่เป็นอันตรายยังคงแสดงอยู่เป็นเวลานาน ฟากรัฐบาลจีนแทบไม่เข้ามาแทรกแซงเลย เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้มุ่งเป้าผู้ใช้ในต่างประเทศ
ทาง Reuters ทดสอบพบว่าสามารถซื้อบัญชีและลงโฆษณาต้องห้ามผ่านเอเจนซีจีนได้ง่าย แม้จะแจ้งเจตนาอย่างชัดเจน ก่อนเผยแพร่รายงานฉบับนี้ออกมา Meta ได้ลบรายชื่อพันธมิตรที่รับรองออกจากเว็บไซต์ โดยระบุว่ากำลังทบทวนระบบดังกล่าวอยู่

เอกสารปลายปี 2024 ระบุว่า หลังมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยการยุบทีมต่อต้านโฆษณาฉ้อโกงพุ่งเป้าที่จีน และผ่อนคลายมาตรการบางส่วนลง แม้จะมีคำเตือนจากที่ปรึกษาภายนอกว่าอาจเอื้อต่อการทุจริตเชิงระบบ ส่งผลให้ในช่วงกลางปี 2025 รายได้จากโฆษณาต้องห้ามเพิ่มขึ้มาเป็น 16% ของรายได้จากจีนอีกครั้ง
อดีตผู้บริหาร Facebook ระบุว่า สถานการณ์นี้สะท้อนความล้มเหลวในการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่ Meta ชี้แจงว่าทีมเฉพาะกิจดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราว และยืนยันว่าซักเคอร์เบิร์กไม่ได้สั่งยุบทีม พร้อมอ้างว่าบริษัทลบหรือบล็อกโฆษณาจากพันธมิตรจีนไปแล้วกว่า 46 ล้านรายการในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
ในช่วงต้นปี 2025 Meta ปรับโครงสร้างค่าคอมมิชชันให้ผูกกับคุณภาพโฆษณา เพื่อลดการลงโฆษณาหลอกลวงในระบบ แต่เอกสารภายในระบุว่ามาตรการนี้แทบไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเอเจนซี่ แถมยังพบว่ามีบัญชีโฆษณากว่า 800 บัญชีสร้างรายได้ 28 ล้านเหรียญจากการละเมิดกฎภายในเดือนเดียว
แม้พนักงานจะเสนอให้ลงโทษพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง แต่ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “กระทบรายได้มากเกินไป” สุดท้าย Meta เลือกปิดบัญชีเพียงส่วนน้อยช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมในระยะยาวได้ และรายได้จากโฆษณาหลอกลวงมีแนวโน้มจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
ที่มา reuters





