รู้จักฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แบบ 5 ดาว ที่เข้มงวดกว่าเดิมจนค่าไฟลดลงจริง ! 

ช่วงที่ผ่านมา ค่าไฟในบ้านของหลาย ๆ คน อาจเพิ่มสูงขึ้น จนต้องหันมาเช็กอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ หนึ่งในเครื่องที่ควรเช็กคือ ‘ตู้เย็น’ และหากคุณพบว่าใช้มาเกิน 10 ปีแล้ว ก็อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาอัปเกรดเครื่องใหม่

เมื่อตัดสินใจจะเปลี่ยนตู้เย็น สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ‘ตู้เย็น’ ที่ประหยัดพลังงาน หรือต้องมี ‘ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์ดาวสูงสุดถึง 5 ดาว’ เพื่อยืนยันว่าเป็นรุ่นที่ประหยัดไฟที่สุดในกลุ่มเดียวกัน โดยฉลากแบบใหม่นี้ได้เริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา 

ซึ่งก่อนที่คุณตัดสินใจซื้อ ก็อาจมีคำถามในใจว่าส่วนต่างของราคารุ่นใหม่ที่แพงขึ้นจะคุ้มกับเงินที่ประหยัดค่าไฟหรือไม่ ลองเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกันเลย ว่าจะประหยัดได้หลักพันบาทต่อปีจริงไหม ?

• ตู้เย็นเก่าใช้พลังงานประมาณ 600 หน่วย / ปี
• ตู้เย็นเบอร์ 5 ระดับ 5 ดาว ใช้ประมาณ 360-400 หน่วย / ปี 

ถ้าใช้ตู้เย็นเบอร์ 5 ระดับ 5 ดาว จะสามารถประหยัดได้ประมาณ 200-240 หน่วย / ปี เมื่อเทียบกับเครื่องเก่า และเมื่อนำไปคูณด้วยค่าไฟ หน่วยละ 5 บาท จะสามารถประหยัดได้ประมาณ 1,000-1,200 บาทต่อปี

โดยฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ มีระดับดาวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 5 ดาว เพื่อเป็นตัวชี้วัดที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง และยิ่งมีดาวมาก ก็หมายถึงยิ่งประหยัดไฟฟ้าได้มาก

ดังนั้น แม้การลงทุนซื้อตู้เย็นใหม่จะต้องจ่ายค่าตู้เย็นอีกครั้ง แต่เมื่อพิจารณาอายุการใช้งานที่หลายปีแล้ว เงินที่ประหยัดได้จากค่าไฟก็อาจช่วยให้คุ้มทุนได้ในเวลาไม่กี่ปี ที่สำคัญ ถ้าดูแลตู้เย็นไม่ดี ตู้เย็นเก่าก็อาจเป็นศูนย์รวมของเชื้อโรคในบ้านด้วย การซื้อตู้เย็นใหม่ ได้เทคโนโลยีใหม่ ประหยัดไฟมากขึ้น สะอาดมากขึ้น ก็ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นด้วย

ซื้อตู้เย็น อย่าลืมดูฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ระดับ 5 ดาว

CEEi Team

See Culture. Spark Innovation. Illuminate the Future.